เกิดเหตุอาคาร 5 ชั้นถล่มในกรุงไคโร เมืองหลวงของประเทศอียิปต์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย
นายฮอสซัม เอล-ดิน ฟอว์ซี รองผู้ว่าการกรุงไคโรเปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันจันทร์ (17 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยสาเหตุของอาคารถล่มเกิดจากการที่เจ้าของอาคารชั้นแรกตัดสินใจรื้อถอนกำแพงอาคารบางส่วนออกเพื่อขยายพื้นที่โดยไม่ได้ขอคำแนะนำทางวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรม ส่งผลให้อาคารพังถล่มลงมา โดยในขณะเกิดเหตุมีประชาชนอยู่ในอาคารจำนวน 14 ราย เสียชีวิต 13 ราย และมีผู้รอดชีวิตเพียง 1 ราย
หนังสือพิมพ์อาห์ราม (Ahram) ของอียิปต์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวด้านความมั่นคงว่า ผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวแล้ว
ภายหลังจากอาคารถล่ม ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รุดหน้าไปยังที่เกิดเหตุในทันทีเพื่อค้นหาผู้สูญหายใต้ซากปรักหักพัง ขณะเดียวกัน อาคารที่อยู่ใกล้เคียง 2 แห่งได้ดำเนินการอพยพผู้คนก่อนที่จะมีการตรวจสอบความปลอดภัย
ทั้งนี้ สำนักงานอัยการฝ่ายปกครองของอียิปต์เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานมีคำสั่งให้รื้อถอนอาคารดังกล่าวตั้งแต่ปี 2539
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวัน หลังจากเกิดเหตุอาคาร 2 แห่งพังถล่มในเขตปกครองอเล็กซานเดรียและเบเฮราทางตอนเหนือของอียิปต์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 11 ราย