เหล่านักช็อปต่างแห่ซื้อต่างหูห่วง น้ำหอม ชุดจัมพ์สูท และชุดเดรสในสไตล์บาร์บี้ (Barbie) ในขณะที่ร้านค้าปลีกต่าง ๆ ใช้โอกาสการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องบาร์บี้ที่เข้าฉายในวันศุกร์นี้ (21 ก.ค.) ในการหารายได้เพิ่ม โดยภาพยนตร์ชื่อดังเรื่องนี้ได้จุดประกายความหลงไหลคลั่งไคล้ในจักรวาลแห่งตุ๊กตาสาวสุดฮอตที่เต็มไปด้วยสีชมพูเจิดจรัสและประดับเลื่อมระยิบระยับ
ในขณะที่ผู้บริโภคจำนวนมากใช้จ่ายน้อยลงเนื่องจากค่าครองชีพที่สูง บรรดาผู้ค้าปลีกไม่พลาดที่จะใช้โอกาสนี้ในการเพิ่มรายได้ด้วยการโน้มน้าวใจนักช็อปให้ซื้อสินค้าในราคาที่แพงขึ้น
บริษัทแมทเทล (Mattlel) ผู้เป็นเจ้าของบาร์บี้ตั้งเป้าว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้จะช่วยฟื้นคืนเสน่ห์อันน่าดึงดูดใจของตุ๊กตาบาร์บี้ ไปพร้อม ๆ กับการประทับความชื่นชอบบาร์บี้ไว้ในจิตใจของคนรุ่นใหม่
สินค้ามากมายหลากหลายแบรนด์ได้มีการเชื่อมโยงกับบาร์บี้ ซึ่งหลายชนิดมุ่งเป้าหมายไปยังกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นการเดิมพันในการเดินทางหวนคืนสู่อดีตในวัยเด็กในโลกที่บาร์บี้เป็นตุ๊กตาที่เป็นตัวแทนตัวตนของหลายต่อหลายคนเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก
นายโจ แอชดาวน์ หุ้นส่วนผู้จัดการของแมนโด-คอนเนกต์ (Mando Connect) หน่วยงานพันธมิตรด้านแบรนด์ที่เป็นส่วนหนึ่งของดับเบิลยูพีพี (WPP) บริษัทสื่อและโฆษณายักษ์ใหญ่ของอังกฤษกล่าวว่า "ผมไม่คิดว่าเราจะได้ความร่วมมือระหว่างแบรนด์มากขนาดนี้มาก่อน ซึ่งมาจากภาพยนตร์เพียงเรื่องเดียว"
คอลเลกชันบาร์บี้ของซาร่า (Zara) ที่เปิดตัวเมื่อวันจันทร์ (17 ก.ค.) มีทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับสำหรับเด็ก 17 รายการ รวมถึงชุดว่ายน้ำสี กระเป๋าเป้ และรองเท้าผ้าใบ ซึ่งทั้งหมดเป็นสีชมพูฮอตพิงค์ โดยแบรนด์เสื้อผ้าต่าง ๆ ตั้งแต่เอชแอนด์เอ็ม (H&M) ไปจนถึงไพรมาร์ค (Primark) แก็ป (Gap) ซูเปอร์กา (Superga) และคร็อคส์ (Crocs) ต่างก็เปิดตัวคอลเลกชันบาร์บี้
กระแสสุดร้อนแรงนี้ยังแผ่ขยายวงกว้างไปไกลกว่าวงการค้าปลีก โดยโรงแรมไฮแอทท์ (Hyatt) และโรงแรมฮิลตัน (Hiltom) ต่างเปิดให้บริการห้องสวีทในธีมบาร์บี้ในเมืองต่าง ๆ เช่น โบโกตาของโคลอมเบีย และกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย