พายุไต้ฝุ่นทกซูรี (Doksuri) ได้ทวีกำลังแรงขึ้น และอาจมีความเร็วลมเพิ่มสูงขึ้นจนกลายเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น ก่อนเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์และมุ่งหน้าไปยังไต้หวัน
สำนักงานสภาพอากาศของฟิลิปปินส์รายงานวันนี้ (24 ก.ค.) ว่า พายุไต้ฝุ่นเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกอย่างช้า ๆ ด้วยความเร็วลมสูงสุด 150 กิโลเมตร (93 ไมล์) ต่อชั่วโมง และมีลมกระโชกแรงสูงถึง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีโอกาสกลายเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นในช่วงสายวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) หรือเช้าตรู่ของวันพุธ (26 ก.ค.)
ศูนย์เตือนภัยพายุไต้ฝุ่นร่วมของกองทัพสหรัฐระบุว่า พายุไต้ฝุ่นทุกซูรี ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางตะวันออกราว 322 ไมล์ทะเล เคลื่อนตัวไปทางตะวันตก - ตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 4 นอต (4.6 ไมล์ต่อชั่วโมง) ตลอดระยะเวลา 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา และอาจเคลื่อนตัวเข้าฝั่งเมืองเกาสง เมืองท่าทางตอนใต้ของไต้หวันในวันพฤหัสบดี (27 ก.ค.)
นายชาง เฉิง ชวน นักพยากรณ์อากาศของศูนย์พยากรณ์อากาศกลางของไต้หวันระบุว่า พายุทกซูรีอาจกลายเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกแรกที่ขึ้นฝั่งไต้หวันนับตั้งแต่ปี 2562 และอาจมีการออกประกาศเตือนภัยทางทะเลอย่างเร็วที่สุดในคืนวันนี้
นอกจากนี้ เส้นทางของพายุไต้ฝุ่นอาจผ่านคลังนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) หย่งอันและโรงกลั่นน้ำมันที่สำคัญอีก 2-3 แห่งที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน
นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์มีคำสั่งหยุดหน่วยงานของรัฐและโรงเรียนของรัฐในเขตเมืองหลวงในวันนี้ โดยให้เหตุผลด้านความเสี่ยงจากสภาพอากาศและการนัดหยุดงานประท้วงของแรงงานในภาคขนส่ง
ทั้งนี้ นายมาร์กอสเตรียมแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา (State of the Nation Address) เวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ตลาดสกุลเงินและตราสารหนี้ในฟิลิปปินส์ปิดทำการ ส่วนการซื้อขายหุ้นยังคงเปิดทำการในวันนี้
สำนักงานสภาพอากาศระบุว่า พื้นที่อื่น ๆ ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์อยู่ภายใต้สัญญาณเตือนภัยระดับ 2 จากทั้งหมด 5 ระดับจำแนกตามความแรงลม ขณะที่เขตเมืองหลวงอยู่ภายใต้การเตือนภัยระดับต่ำสุด
ข้อมูลจากหน่วยงานจัดการและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งประเทศระบุว่า จนถึงตอนนี้ มีผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 11,100 คน โดยมีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยมากกว่า 1,000 ราย