ลมกระโชกแรงและฝนถล่มพื้นที่ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ หลังพายุไต้ฝุ่นทกซูรี (Doksuri) เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งในวันนี้ (26 ก.ค.) ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ และประชาชนนับพันไม่มีไฟฟ้าใช้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้อยู่อาศัยในชุมชนชายฝั่งได้อพยพออกไปล่วงหน้าก่อนเผชิญพายุหมุน ซึ่งมีความลมเร็วสูงถึง 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (108 ไมล์ต่อชั่วโมง) และคาดว่าจะยังรักษาความเร็วลมเช่นนี้ต่อไป ขณะที่มุ่งหน้าไปยังไต้หวันและจีน
นายมานูอัล แมมบา ผู้ว่าการจังหวัดคากายันเหนือ กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า "เรากำลังเผชิญสถานการณ์รุนแรงที่นี่" และเสริมว่า ปัจจุบันยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
หน่วยยามชายฝั่งฟิลิปปินส์ระบุว่า ผู้โดยสารกว่า 4,000 คนต้องถูกทิ้งไว้ตามท่าเรือต่าง ๆ ในประเทศ หลังจากการเดินทางทางทะเลถูกสั่งระงับ
นอกจากนี้ มีการประกาศเตือนภัยพายุหมุนในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรราวครึ่งหนึ่งของฟิลิปปินส์ที่มีประชากร 110 ล้านคน โดยเจ้าหน้าที่ได้เตือนประชาชนให้ระวังคลื่นพายุซัดฝั่ง แผ่นดินถล่ม และความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน
ทั้งนี้ พายุหมุนทกซูรี หรือพายุหมุนอีเก (Egay) ในภาษาท้องถิ่น เป็นพายุลูกที่ 5 ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ต่อฟิลิปปินส์ในปีนี้ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วฟิลิปปินส์จะเผชิญพายุไต้ฝุ่น 20 ลูกในแต่ละปี บรรดานักวิทยาศาสตร์เตือนว่า ภาวะโลกร้อนมีแต่จะทำให้พายุลูกต่าง ๆ มีความชื้นมากขึ้น กำลังลมแรงขึ้น และสร้างความเสียหายได้รุนแรงยิ่งขึ้น