สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เกิดเหตุไฟไหม้เรือขนส่งฟรีแมนเทิล ไฮเวย์ (Fremantle Highway) ที่บรรทุกรถยนต์เกือบ 3,000 คัน ซึ่งบางคันผลิตโดยบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ และบีเอ็มดับบลิว นอกชายฝั่งของเนเธอร์แลนด์ โดยที่ไฟยังคงลุกไหม้ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 วันแล้ว ขณะที่หน่วยยามฝั่งของเนเธอร์แลนด์กำลังพยายามควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามจนสร้างความเสียหายแก่พื้นที่โดยรอบ
หน่วยงานระบุว่า พบลูกเรือ 1 รายเสียชีวิตจากเปลวเพลิงที่เผาไหม้เรือทั้งลำ ช่วงหลังเที่ยงคืนวานนี้ (26 ก.ค.) โดยเรือลำนี้บรรทุกลูกเรือทั้งสิ้น 23 ราย ซึ่งรวมถึงผู้เสียชีวิตรายดังกล่าว ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บรายอื่นได้รับการช่วยเหลือทางเรือและทางเฮลิคอปเตอร์แล้ว
โฆษกหน่วยยามฝั่งของเนเธอร์แลนด์กล่าวว่า ไฟยังคงลุกลาม แม้สถานการณ์คงที่แล้วเมื่อเวลา 8.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันนี้ (27 ก.ค.) กระทรวงโครงสร้างพื้นฐานและการจัดการน้ำของเนเธอร์แลนด์ระบุว่า ปฏิบัติการลากจูงหรือกอบกู้เรือจะเกิดขึ้นได้หลังจากเปลวเพลิงดับลงแล้วเท่านั้น
หน่วยยามฝั่งเสริมว่า "การดับเพลิงอาจทำให้เรือเสียสมดุลเนื่องจากน้ำที่เข้าไปในเรือ" พร้อมระบุ ยังไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปบนเรือได้ เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้
รายงานระบุว่า เรือฟรีแมนเทิล ไฮเวย์กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองพอร์ตซาอิด ของอียิปต์ หลังจากแวะเทียบท่าที่ท่าเรือเมืองเบรเมอร์ฮาเฟิน ของเยอรมนีเมื่อไม่นานมานี้ ด้านโชเอะ คิเซ็น ไคชา บริษัทญี่ปุ่นซึ่งเป็นเจ้าของเรือลำดังกล่าวกล่าวว่า จุดหมายปลายทางของรถยนต์บนเรือลำนี้คือ สิงคโปร์
สำนักข่าวเอเอ็นพีของเนเธอร์แลนด์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ว่า รถยนต์ 25 คันจากทั้งหมด 2,857 คันเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งหากรถยนต์ EV เกิดไฟลุกไหม้ ไฟนั้นอาจอยู่ได้นานหลายวัน
ทั้งนี้ เรือลำดังกล่าวบรรทุกรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์อยู่ประมาณ 300 คัน
ด้านโฆษกของบริษัทยานยนต์หลายแห่งต่างออกมาระบุว่าไม่มีรถยนต์ของตนอยู่บนเรือลำเกิดเหตุ อาทิ ฟอร์ด มอเตอร์, สเตลแลนทิส, เรโนลต์ และนิสสัส มอเตอร์ ขณะที่ตัวแทนของโตโยต้า มอเตอร์ กล่าวว่า ไม่น่าจะมีรถยนต์ของตนอยู่บนเรือเช่นเดียวกัน
ส่วนโฆษกของโฟล์คสวาเกนกล่าวว่า บริษัทกำลังดำเนินการสืบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียด แต่ไม่อาจให้รายละเอียดเพิ่มเติมได้ ขณะที่เทสลาไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ
โฆษกของบีเอ็มดับบลิวยืนยันว่า มีรถยนต์ของบริษัทอยู่บนเรือลำดังกล่าว แต่ไม่ได้ระบุจำนวน
ทั้งนี้ หน่วยยามฝั่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า มีเชื้อเพลิงรั่วไหลออกจากเรือหรือไม่ แม้ว่าทางการจะดำเนินมาตรการป้องกันล่วงหน้าไว้แล้วก็ตาม