ปัจจุบัน เอฟเอดับเบิลยูมีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่เกือบ 8.3 ล้านล้านหยวน (1.16 ล้านล้านดอลลาร์) กำไรรวมและรายได้ภาษีกว่า 1.87 ล้านล้านหยวน สินทรัพย์รวมมากกว่า 6 แสนล้านหยวน
มูลค่าแบรนด์ของเอฟเอดับเบิลยูเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 4.20 แสนล้านหยวนในปี 2566 ขณะที่เจี่ยฟ่างและหงฉีมีมูลค่าแบรนด์สูงกว่า 1.1 แสนล้านหยวน
นอกจากนี้ ในโอกาสครบรอบ 70 ปีของเอฟเอดับเบิลยู และในโอกาสครบรอบ 35 ปีความร่วมมือกับโฟล์คสวาเกน (Volkswagen) และอาวดี้ (Audi) ทั้งสามฝ่ายได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการกระชับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่เมืองฉางชุน เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
เอฟเอดับเบิลยูและโฟล์คสวาเกนเปิดเผยว่า ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันยกระดับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของโฟล์คสวาเกน ผลักดันการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า และแนะนำเทคโนโลยีของจีนเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกัน เอฟเอดับเบิลยูดำเนินโครงการความร่วมมือด้านกำลังการผลิตระหว่างประเทศหลายโครงการ และสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์ครบวงจรสำหรับตลาดทั่วโลก ครอบคลุมการวิจัยและพัฒนา การจัดซื้อ การผลิต โลจิสติกส์ และการตลาด ซึ่งโครงการริเริ่มเหล่านี้ช่วยยกสถานะของเอฟเอดับเบิลยูในตลาดระดับไฮเอนด์
เมื่อปี 2565 เอฟเอดับเบิลยูขยายธุรกิจครอบคลุม 85 ประเทศและภูมิภาค รวมถึงยุโรป แอฟริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และลาตินอเมริกา บริษัทส่งออกรถยนต์รวมแล้วทั้งสิ้น 400,000 คัน ผ่านตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 120 รายในต่างประเทศ นอกจากนี้เอฟเอดับเบิลยูยังได้จัดตั้งบริษัทลูกสามแห่งในยุโรปตะวันออก แอฟริกาใต้ และแทนซาเนีย พร้อมว่าจ้างพนักงานท้องถิ่นกว่า 300 คน
เอฟเอดับเบิลยู กรุ๊ป ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองฉางชุน มณฑลจี๋หลินของจีน ฉลองครบรอบ 70 ปีไปเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยการปล่อยรถยนต์คันที่ 55.77 ล้านออกจากสายการผลิต