ร่างชาวโรฮิงญา 23 รายที่จมน้ำเสียชีวิตได้รับการเก็บกู้แล้ว หลังจากประสบเหตุเรือล่มระหว่างหลบหนีออกจากรัฐยะไข่ของเมียนมา โดยทีมกู้ภัยกล่าวกับสำนักข่าวบีบีซีภาษาพม่าว่า ผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง 13 ราย และอีก 10 รายเป็นผู้ชาย
ชาวโรฮิงญาอีก 30 รายยังคงสูญหาย ส่วนอีก 8 ราย รอดชีวิตและได้รับการช่วยเหลือแล้ว
กลุ่มผู้รอดชีวิตเล่าว่า พวกเขาโดยสารมาในเรือซึ่งบรรทุกคนมากกว่า 50 ราย โดยพยายามมุ่งหน้าไปยังมาเลเซีย ก่อนที่เรือจะล่มลงเมื่อวันอาทิตย์ (5 ส.ค.) โดยเรือถูกคลื่นลูกใหญ่ซัดขณะลอยอยู่ใกล้กับเมืองซิตตเว ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐยะไข่
พวกเขากล่าวอีกว่า กลุ่มผู้ลักลอบพาคนเข้าเมืองได้รับค่าจ้างประมาณ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนสำหรับการพาเดินทางไปยังมาเลเซีย แต่คนกลุ่มนี้และลูกเรือได้ทิ้งเรือหนีเอาตัวรอดหลังจากเรือล่ม ส่วนร่างผู้เสียชีวิตถูกคลื่นซัดเกยชายฝั่ง หรือถูกเก็บกู้โดยเรือ
สำนักข่าวบีบีซีรายงานในวันนี้ (11 ส.ค.) ว่า ในทุก ๆ ปี ชาวโรฮิงญาหลายพันคนขึ้นเรือออกทะเลที่เต็มไปด้วยอันตราย เพื่อเดินทางไปยังมาเลเซียหรืออินโดนีเซีย โดยพวกเขาพยายามหลบหนีการปราบปรามด้วยความรุนแรงในเมียนมา และสภาพความเป็นอยู่ที่แออัดในค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ
ชาวมุสลิมโรฮิงญาเป็นชนกลุ่มน้อยในเมียนมา ซึ่งประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ โดยเมื่อปี 2560 ทหารเมียนมาได้ออกปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา ทำให้หลายคนหลบหนีไปยังบังกลาเทศ และหลังจากที่กองทัพก่อรัฐประหารในปี 2564 ชาวโรฮิงญาที่เหลือก็พยายามหลบหนีออกจากประเทศด้วยเช่น