สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟป่าในเมืองลาไฮนา เกาะเมาวี รัฐฮาวาย เพิ่มขึ้นแตะอย่างน้อย 80 ราย และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ขณะที่ทีมค้นหาพร้อมสุนัขกำลังดำเนินการค้นหาเหยื่อที่ติดใต้ซากปรักหักพังที่ไหม้เกรียม
สำนักงานจัดการฉุกเฉินแห่งรัฐบาลกลางสหรัฐ (FEMA) ระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูเมืองตากอากาศเก่าแก่แห่งนี้คาดว่ามีมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่ไฟป่าลุกลามเผาผลาญอาคารมากกว่า 1,000 หลัง จนเมืองเกือบจะราบเป็นหน้ากลอง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ให้คำมั่นว่าจะเข้าตรวจสอบระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินของรัฐ หลังจากประชาชนบางส่วนตั้งคำถามว่าทางการสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้หรือไม่ เพื่อเตือนประชาชนก่อนที่ไฟจะลามมายังบ้านเรือนของพวกเขา บางคนต้องเอาตัวรอดโดยการกระโดดลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อหนีไฟป่า
รายงานระบุว่า ไซเรนที่ประจำอยู่ทั่วเกาะ ซึ่งมีไว้เพื่อเตือนถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ได้ส่งเสียงแจ้งเตือนในครั้งนี้ เนื่องจากเกิดเหตุไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างและเครือข่ายมือถือที่ไม่สามารถใช้งานได้
ด้านนางแอนน์ โลเปซ อัยการสูงสุดของรัฐฮาวายระบุว่า กำลังเริ่มกระบวนการตัดสินใจ ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุไฟไหม้ ขณะที่นายจอช กรีน ผู้ว่าการรัฐฮาวาย กล่าวว่า เขาได้สั่งให้มีการตรวจสอบมาตรการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินแล้ว
ทั้งนี้ ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ ซึ่งปะทุขึ้นเมื่อวันอังคาร (8 ส.ค.) นับเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐฮาวาย แซงหน้ายอดผู้เสียชีวิตจากคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2504 ที่คร่าชีวิตผู้คนไป 61 ราย