ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟป่าในเมืองลาไฮนา บนเกาะเมาวี รัฐฮาวายของสหรัฐ พุ่งขึ้นเป็น 99 ราย และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก นับเป็นไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดของสหรัฐในรอบกว่า 100 ปี
นายจอช กรีน ผู้ว่าการรัฐฮาวายกล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวันอาทิตย์ (13 ส.ค.) ว่า หากเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่สำรวจบ้านเรือนและยานพาหนะเสียหายจากไฟไหม้ อาจพบผู้เสียชีวิต 10 - 20 รายต่อวัน โดยอาจต้องใช้เวลามากถึง 10 วันเพื่อสรุปยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด ขณะที่ยอดผู้สูญหายตอนนี้อยู่ที่ 1,300 ราย
นายกรีนระบุในการแถลงข่าวในเวลาต่อมาว่า เจ้าหน้าที่ได้ค้นหาร่างของผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าไปแล้ว 25% ซึ่งพื้นที่ต่าง ๆ ในเมืองลาไฮนาเกือบทั้งหมดถูกทำลายจากเปลวเพลิงที่ลุกไหม้
นายกรีนกล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือการทำลายล้างอย่างเต็มรูปแบบ โดยผู้อยู่อาศัยในเมืองลาไฮนา ซึ่งมีประชากรราว 12,000 คน อาจหนีรอดไปได้ หรือเสียชีวิตในกองเพลิง เจ้าหน้าที่กู้ภัยอาจค้นพบร่างของผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นและอาจต้องใช้เวลาพอสมควรในการระบุตัวของพวกเขาเหล่านี้
ด้านนางดีแอนน์ คริสเวลล์ ผู้บริหารของสำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินกลาง (FEMA) ได้ปฏิเสธที่จะคาดการณ์เวลาที่ต้องใช้ในภารกิจการค้นหาและเก็บกู้ครั้งนี้ พร้อมเรียกสถานการณ์นี้ว่าเป็น "มหันตภัยครั้งร้ายแรง"
นางคริสเวลล์ ระบุในการแถลงข่าวของทำเนียบขาวว่า "สุนัขกู้ภัยไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้นานนัก เนื่องจากอุณหภูมิที่ร้อนจัด และเป็นเรื่องยากที่จะระบุตัวตนร่างที่พบ"
ทั้งนี้ FEMA ได้ส่งสุนัขกู้ภัย 20 ตัวไปปฏิบัติหน้าที่ที่ฮาวาย
นายเจฟฟ์ เพลเลเทียร์ หัวหน้าตำรวจเมืองเมาวีกล่าวในการแถลงข่าวในช่วงสุดสัปดาห์ว่า "เรามีพื้นที่ที่ต้องควบคุมให้ได้อีกอย่างน้อย 5 ตารางไมล์ ซึ่งเต็มไปด้วยบุคคลอันเป็นที่รักของเรา"
ก่อนหน้านี้ มีรายงานผู้สูญหายจากเหตุเพลิงไหม้มากกว่า 2,000 ราย นับตั้งแต่เกิดเหตุไฟป่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม จำนวนดังกล่าวลดลงมาสู่ระดับ 1,300 ราย หลังจากที่ผู้คนสามารถติดต่อกันได้อีกครั้งหลังบริการโทรศัพท์มือถือได้รับการแก้ไข