กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันพุธ (23 ส.ค.) ว่า ทางกระทรวงได้ยึดเงินจำนวนกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ที่อาชญากรขโมยไปจากโครงการบรรเทาทุกข์จากโรคโควิด-19 และตั้งข้อหาอาญากับจำเลยมากกว่า 3,000 รายในเขตต่าง ๆ ของรัฐบาลกลางทั่วประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงยุติธรรมได้เปิดเผยเกี่ยวกับการดำเนินการทั่วประเทศเพื่อต่อสู้กับการฉ้อโกงที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 รวมถึงการดำเนินคดีอาญาต่อจำเลย 371 รายในฐานความผิดด้านการฉ้อโกงที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 คิดเป็นมูลค่ากว่า 836 ล้านดอลลาร์
นายเมอร์ริก การ์แลนด์ อัยการสูงสุดของสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า "การดำเนินการล่าสุดนี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับจำเลยมากกว่า 300 ราย และจำนวนเงินกว่า 830 ล้านดอลลาร์ในข้อกล่าวหาด้านการฉ้อโกงเกี่ยวกับโรคโควิด-19 นั้น จะเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขจากโรคโควิด-19 อาจสิ้นสุดลงแล้ว แต่งานของกระทรวงยุติธรรมในการระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ขโมยเงินจากโครงการบรรเทาทุกข์จากโรคโควิด-19 นั้นยังไม่สิ้นสุด"
นอกจากนี้ กระทรวงยุติธรรมระบุว่า จำเลยทั้งหมด 119 คนได้รับสารภาพ หรือถูกตัดสินว่ามีความผิดในการพิจารณาคดี
ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือนมิ.ย. หน่วยงานเฝ้าระวังของรัฐบาลกลางระบุว่า เงินจำนวนกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์จากโครงการบรรเทาทุกข์จากโรคโควิด-19 ของรัฐบาลสหรัฐ อาจถูกขโมยไป และระบุเสริมว่า องค์การบริหารจัดการธุรกิจขนาดเล็ก (SBA) ของสหรัฐได้ปรับลดมาตรการควบคุมลงเพื่อเร่งเบิกจ่ายเงินทุนบรรเทาทุกข์