นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า รัฐบาลจะตั้งกองทุนฉุกเฉินวงเงิน 2.07 หมื่นล้านเยน (141 ล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการที่จีนประกาศระงับการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น โดยอ้างเหตุผลจากการที่ญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่ทะเล
ทั้งนี้ จีนนับเป็นตลาดส่งออกอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยคิดเป็นสัดส่วน 22.5% ของทั้งหมด
การที่จีนประกาศระงับการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น นอกจากจะกระทบต่ออุตสาหกรรมประมงจากฟุกุชิมะแล้ว ยังกระทบภูมิภาคที่ไกลออกไปถึงเกาะฮอกไกโด
รัฐบาลจะใช้เงินจากกองทุนดังกล่าวในการแสวงหาตลาดใหม่ทดแทนจีน รวมทั้งเป็นเงินทุนสำหรับรัฐบาลในการซื้ออาหารทะเลสำหรับการกักเก็บและแช่แข็งชั่วคราว
กองทุนฉุกเฉินวงเงิน 2.07 หมื่นล้านเยนดังกล่าว ถือเป็นความช่วยเหลือล่าสุดจากรัฐบาลญี่ปุ่น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประกาศตั้งกองทุนวงเงิน 80,000 ล้านเยนเพื่อชดเชยความเสียหายทางเศรษฐกิจ และเยียวยาอุตสาหกรรมประมงที่ได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำปนเปื้อนรังสีลงสู่ทะเล