หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์รายงานว่า ลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป (Lloyds Banking Group) เปิดตัวมาตรการดึงดูดใจให้พนักงานเข้ามาทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ เริ่มต้นตั้งแต่วันจันทร์ (4 ก.ย.) โดยแลกกับของตอบแทนเช่น อาหารฟรี ในขณะที่บรรดาธนาคารต่าง ๆ หลายแห่งเล็งเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่จะยกเลิกการทำงานที่บ้าน ซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ลอยด์สตั้งใจให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานที่สำนักงานในช่วงเดือนที่ตลาดการเงินมีความคึกคัก หลังจากซบเซาในช่วงฤดูร้อน โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการกระตุ้นประสิทธิภาพการทำงานแบบเป็นวงกว้าง ซึ่งถูกต่อต้านจากกลุ่มพนักงานอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้กำลังกลายเป็นบรรทัดฐานสำหรับอุตสาหกรรมการบริการทางการเงินที่สำคัญของอังกฤษ ที่นายจ้างจะเข้มงวดกับการทำงานที่บ้านหรือการทำงานจากระยะไกลมากขึ้น เนื่องจากบางส่วนมองว่าจะเป็นการลดประสิทธิภาพการทำงาน
"เราสามารถแข่งขันได้ก็ต่อเมื่อเราร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องยากหากใครบางคนในทีมไม่อยู่ในสำนักงานในวันที่จำเป็น หรือมีแค่คนสำคัญในทีมอยู่ที่สำนักงาน ในขณะที่คนอื่น ๆ หายหน้าหายตาไปหมด" นายชาร์ลี นันน์ ซีอีโอของลอยด์สกล่าวในการประชุมพนักงานเมื่อเดือนก.ค.
ขณะที่ซิตี้ (Citi) กล่าวกับพนักงานในอังกฤษในเดือนส.ค.ว่า จะเริ่มตรวจสอบว่าพนักงานมีการเข้าสำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ โดยชี้แจงว่า ธนาคารคาดหวังอย่างมากเกี่ยวกับการเข้าทำงานที่สำนักงาน และทราบดีว่าพนักงานส่วนใหญ่ปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว พร้อมระบุเสริมว่า ในกรณีที่จำเป็น ธนาคารจะบังคับให้พนักงานปฏิบัติตามข้อกำหนดในการเข้าปฏิบัติงานที่สำนักงาน
ด้านเอชเอสบีซี (HSBC) ก็ได้ประกาศนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นตลอดช่วงฤดูร้อน โดยระบุว่า นับตั้งแต่เดือนต.ค.เป็นต้นไป การทำงานที่สำนักงานสลับกับการทำงานที่บ้าน จะกำหนดให้พนักงานต้องมาพบปะลูกค้า หรือเข้าสำนักงาน 3 วันต่อสัปดาห์
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ได้แจ้งให้พนักงานเข้ามาทำงานที่สำนักงานตั้งแต่ช่วงผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เมื่อปี 2564 โดยนายเดวิด โซโลมอน ซีอีโอของโกลด์แมน แซคส์ เคยกล่าวว่า การทำงานที่บ้านเป็น "เรื่องผิดปกติ"