หน่วยกู้ภัยของโมร็อกโกยังคงเดินหน้าค้นหาผู้ที่สูญหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง 6.8 แมกนิจูดซึ่งเกิดขึ้นในคืนวันศุกร์ (8 ก.ย.) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2,122 ราย และคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากถึง 2,421 รายในขณะนี้
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ (USGS) ระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้มีความรุนแรง 6.8 แมกนิจูด เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.11 น.ตามเวลาท้องถิ่นของโมร็อกโกในวันศุกร์ที่ 8 ก.ย. (22.11 GMT) หรือราว 05.11 น.ในวันเสาร์ที่ 9 ก.ย.ตามเวลาประเทศไทย โดยเกิดขึ้นที่ระดับความลึก 18.5 กิโลเมตรห่างจากเมืองมาร์ราเกซไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 70 กิโลเมตร
ทั้งนี้ โมร็อกโกเผชิญกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 60 ปี ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบอย่างสาหัส โดยมีประชาชนขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ที่พักอาศัย และต้องอาศัยนอนริมถนนเป็นคืนที่ 3 แล้ว ขณะที่รัฐบาลโมร็อกโกกำลังขอความช่วยเหลือจากนานาประเทศ และจะให้ความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ตามความจำเป็น
ชาวโมร็อกโกได้โพสต์วิดีโอที่แสดงให้เห็นอาคารบางแห่งพังทลายลง และบางส่วนของกำแพงสีแดงอันโด่งดังที่ล้อมรอบมาร์ราเกชซึ่งเป็นเมืองเก่าในประวัติศาสตร์นั้นได้รับความเสียหายด้วย โดยเมืองเก่ามาร์ราเกช ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโดยองค์การ UNESCO
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวได้โพสต์วิดีโอที่ผู้คนหนีออกจากร้านอาหารในเมืองมาร์ราเกช และประชาชนส่วนใหญ่ยังคงรออยู่ตามถนน แทนที่จะกลับไปยังอาคารที่พัก เนื่องจากวิตกว่าจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกและแรงสั่นสะเทือนที่อาจทำให้บ้านเรือนของพวกเขาพังทลายลงมา
รายงานระบุว่าขณะนี้หน่วยกู้ภัยของโมร็อกเผชิญกับความยากลำบากในการเข้าถึงหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล ซึ่งรวมถึงหมู่บ้านโมเลย์ บราฮิม ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากทางตอนใต้เมืองเก่ามาร์ราเกชประมาณ 40 กิโลเมตร