สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อัลโรซา (Alrosa) บริษัทเหมืองเพชรยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ (10 ก.ย.) ว่า ขุดพบเพชรขนาด 390.7 กะรัต ซึ่งมีคุณภาพดีมาก และนับว่าเป็นเพชรขนาดที่ใหญ่ที่สุดที่พบในรอบทศวรรษ
เพชรดังกล่าวถูกค้นพบที่เหมืองมายัตในสาธารณรัฐยาคูเตีย โดยเป็นเพชรที่มีรูปทรงแปลกตา แตกต่างจากรูปทรงเพชรทั่วไป และทั้งเม็ดล้อมรอบด้วยสีเหลืองอมน้ำตาล โดยเป็นเพชรเม็ดใหญ่ที่สุดที่พบ นับตั้งแต่ปี 2556
"การผสมผสานระหว่างขนาด รูปร่าง และสีของเพชร ทำให้เพชรเม็ดนี้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว" อัลโรซา กล่าว
รายงานระบุว่า อัลโรซา ซึ่งควบคุมโดยรัฐบาลรัสเซีย เป็นบริษัทผู้ผลิตเพชรเป็นจำนวนมาก ในปริมาณที่ใกล้เคียงกับ เดอเบียร์ส (De Beers) บริษัทเหมืองเพชรยักษ์ใหญ่ของแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรม โดยอัลโรซามุ่งเน้นไปที่การเจียระไนเพชรและขายเพชรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดผ่านบริษัทประมูลระดับโลกต่าง ๆ รวมถึง คริสตีส์ (Christie?s)
อย่างไรก็ตาม อัลโรซาเป็นหนึ่งในบริษัทรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตรโดยชาติตะวันตก หลังจากที่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครน ซึ่งมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดโดยประเทศต่าง ๆ รวมถึงสหรัฐและอังกฤษนั้นห้ามไม่ให้นำเข้าเพชรคุณภาพสูงจากรัสเซีย ซึ่งอาจทำให้การขายเพชรเม็ดใหญ่ที่เพิ่งถูกค้นพบนี้เป็นไปได้ยาก
ความพยายามในการระงับการขายเพชรรัสเซียในยุโรปได้รับการต่อต้านจากประเทศผู้นำเข้าบางประเทศ เช่น เบลเยียม ซึ่งโต้แย้งว่าการคว่ำบาตรจะทำให้รัสเซียย้ายการค้าขายเพชรไปที่อื่นแทน อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศ G-7 และสหภาพยุโรป (EU) จะประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมในเดือนนี้
อนึ่ง กลุ่มประเทศ G-7 ประกอบด้วย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐ
ทั้งนี้ ยอดขายของอัลโรซาได้รับผลกระทบอย่างหนัก หลังจากที่สหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรในช่วงแรก แต่ยอดขายก็กลับมาฟื้นตัวได้ ด้วยการย้ายตลาดไปยังเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่คืออินเดีย