สถาบันเปลี่ยนผ่านพลังงานของมหาวิทยาลัยโรเบิร์ต กอร์ดอนในเมืองอเบอร์ดีนของสกอตแลนด์ เผยแพร่รายงานในวันนี้ (12 ก.ย.) ระบุว่า หากสหราชอาณาจักรไม่เพิ่มการลงทุนเป็นจำนวนมากในภาคส่วนพลังงานหมุนเวียนในช่วงที่มีการใช้น้ำมันและก๊าซลดลงนั้น ตำแหน่งงานในภาคส่วนพลังงานนอกชายฝั่งมากกว่า 95,000 ตำแหน่ง อาจจะเผชิญกับความเสี่ยง
นายพอล เดอ ลิว ผู้อำนวยการสถาบันเปลี่ยนผ่านพลังงานกล่าวว่า แรงงานมีศักยภาพมหาศาลที่จะเติบโตได้ หากอังกฤษบรรลุเป้าหมายด้านพลังงานสะอาด แต่ความก้าวหน้าที่ช้าเกินไป อาจทำให้งานในภาคส่วนพลังงานนอกชายฝั่งลดลง 15% ภายในสิ้นทศวรรษนี้
เป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศของสหราชอาณาจักรภายในปี 2573 นั้นรวมถึงพลังงานลมนอกชายฝั่ง 50 กิกะวัตต์ รัฐบาลยังได้ตั้งเป้าสร้างพลังงานไฮโดรเจน 10 กิกะวัตต์ และโรงกักเก็บคาร์บอน ซึ่งมีความสามารถในการดักจับคาร์บอนมากถึง 30 ล้านตันต่อปีภายในปี 2573
สหราชอาณาจักรเป็นตลาดพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก แต่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อและต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นอุปสรรคขัดขวางการขยายตัว
นอกจากนี้ แผนงานด้านพลังงานนอกชายฝั่งยังประสบกับปัญหาต่าง ๆ เนื่องจากการประมูลโครงการใหม่หลายโครงการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไม่สามารถดึงดูดบรรดาผู้เสนอราคาได้เลย
รายงานระบุว่า ตำแหน่งงานจำนวนมากในภาคส่วนพลังงานสะอาด จะได้แรงงานที่จากเดิมทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมพลังงานฟอสซิล ซึ่งหากบรรลุเป้าหมายในการเปลี่ยนผ่านนี้ จำนวนแรงงานในภาคส่วนพลังงานนอกชายฝั่งจะเติบโตขึ้นประมาณ 50%
สถาบันเปลี่ยนผ่านพลังงานยังบ่งชี้อีกว่า "ยังมีโอกาสครั้งใหญ่ในการสร้างงานจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด โอกาสเหล่านี้ก็จะหายไป"