องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐ (NOAA) เผยแพร่รายงานเมื่อวันจันทร์ (11 ก.ย.) ระบุว่า สหรัฐประสบภัยพิบัติจากสภาพอากาศที่รุนแรงมากเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ตั้งแต่ไฟป่าไปจนถึงพายุรุนแรงที่สร้างหายนะให้กับรัฐต่าง ๆ รวมถึงฮาวายและฟลอริดา
NOAA เปิดเผยว่า จนถึงปัจจุบัน สหรัฐประสบภัยพิบัติ 23 ครั้งแล้วในปี 2566 ซึ่งนับเป็นจำนวนที่มากที่สุดนับตั้งแต่ NOAA เริ่มบันทึกข้อมูลเมื่อปี 2523 และมากกว่าสถิติก่อนหน้านี้ในปี 2563 ที่ 22 ครั้ง โดยภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง ล้วนสร้างความเสียหายระดับหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูลระบุว่า ภัยพิบัติ 23 ครั้งในปีนี้สร้างความเสียหายรวมกันมากกว่า 5.76 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 253 ราย
ในเดือนส.ค. ทางตะวันตกของเกาะเมาวีของรัฐฮาวายประสบกับไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี ซึ่งเผาทำลายทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง โดยมีผู้เสียชีวิต 115 ราย และสร้างความเสียหายประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา พายุเฮอริเคนอิดาเลียซัดถล่มรัฐฟลอริดา ก่อให้เกิดฝนตกหนักในชายฝั่งอ่าวบิ๊กเบนด์ โดยอิดาเลียนับเป็นพายุเฮอริเคนที่รุนแรงที่สุดที่ขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดาในรอบ 125 ปี
ภัยพิบัติจากสภาพอากาศที่สร้างความเสียหายระดับพันล้านดอลลาร์ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่ปี 2523 โดยเฉลี่ยแล้ว มีภัยพิบัติลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นปีละ 8 ครั้งในทุก ๆ ปี ตั้งแต่ปี 2523-2565 แต่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จำนวนภัยพิบัติรุนแรงเช่นนี้เพิ่มมากขึ้นสู่ระดับเฉลี่ย 18 ครั้งต่อปี
ภัยพิบัติรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีได้ก่อให้เกิดความกังวลว่าสำนักงานบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FEMA) จะมีงบประมาณมากเพียงพอในการเยียวยาความเสียหายหรือไม่ เมื่อเข้าสู่ช่วงอันตรายที่สุดของฤดูเฮอริเคน ซึ่งมีจำนวนพายุเฮอริเคนความแรงระดับสูงซัดถล่มมากที่สุด
ด้านนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวถึงภัยพิบัติเลวร้ายที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศว่า "ผมไม่คิดว่าจะยังมีคนที่ไม่เชื่อเรื่องผลกระทบของวิกฤตสภาพภูมิอากาศอยู่อีกต่อไป"