กระทรวงสิ่งแวดล้อมของมาเลเซียเปิดเผยว่า มาเลเซียพยายามจะสร้างฝนเทียมและเตรียมปิดโรงเรียน เนื่องจากคุณภาพอากาศในสถานที่ต่าง ๆ ย่ำแย่ลง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดมลพิษรอบใหม่จากไฟป่า
เกือบทุกครั้งที่ฤดูแล้งมาถึงนั้น อินโดนีเซียจะจุดไฟเพื่อแผ้วถางพื้นที่สำหรับปลูกต้นปาล์มน้ำมันและพืชที่ใช้ผลิตกระดาษและเยื่อกระดาษ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดหมอกควันปกคลุมท้องฟ้าในพื้นที่ส่วนใหญ่ของภูมิภาค ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชน และสร้างความกังวลให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสายการบิน
นายวัน อับดุล ลาทิฟ วัน จาฟฟาร์ ผู้อำนวยการทั่วไปของกระทรวงฯ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (2 ต.ค.) ว่า คุณภาพอากาศของมาเลเซียกำลังแย่ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ทางตะวันตกของคาบสมุทรมาเลเซีย โดย 11 พื้นมีค่าดัชนีมลพิษทางอากาศ (API) ที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
รัฐบาลมาเลเซียระบุว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไฟป่าในประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซียก่อให้เกิดมลพิษ แม้ว่าอินโดนีเซียจะปฏิเสธว่า ตรวจไม่พบควันใด ๆ ลอยผ่านพรมแดนเข้าสู่มาเลเซียก็ตาม
นายวัน อับดุล ลาทิฟ กล่าวเสริมว่า ความพยายามในการทำให้อากาศปลอดโปร่งด้วยการทำฝนเทียมและมาตรการอื่น ๆ เพื่อรับมือกับมลพิษนั้น จะมีผลบังคับใช้เมื่อค่า API อยู่ที่ 150 เป็นเวลานานกว่า 24 ชั่วโมง
โรงเรียนและโรงเรียนอนุบาลต้องหยุดกิจกรรมกลางแจ้งทั้งหมดเมื่อตัวเลข API แตะระดับ 100 และต้องปิดทำการเมื่อตัวเลข API แตะระดับ 200
ด้านกรีนพีซ (Greenpeace) องค์กรรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม ได้เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคออกกฎหมายเพื่อหยุดยั้งบริษัททำไร่ทำนา ไม่ให้สร้างมลพิษทางอากาศ