พายุเฮอร์ริเคนโอติส (Otis) ซึ่งเป็นพายุเฮอร์ริเคนที่มีความรุนแรงระดับ 5 ขึ้นฝั่งใกล้กับเมืองอากาปุลโก เมืองท่องเที่ยวริมชายฝั่งแปซิฟิกของรัฐเกร์เรโร เม็กซิโก โดยลมแรงได้ซัดทำลายบ้านเรือนพังเสียหาย ส่งผลให้สายไฟฟ้าขาด และต้นไม้โค่นล้ม
ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ (NHC) กล่าวว่า เฮอร์ริเคนโอติสขึ้นฝั่งเมื่อเวลาประมาณ 02.25 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 13.25 น. ตามเวลาไทย โดยมีความเร็วลมสูงสุด 165 ไมล์ต่อชั่วโมง (270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ของเม็กซิโก ประกาศผ่านเอ็กซ์หรือทวิตเตอร์ ให้ประชาชนในรัฐเกร์เรโรย้ายไปหลบภัยยังศูนย์พักพิง โดยแนะประชาชนให้อยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย ห่างจากแม่น้ำ ลำธาร หุบเหว และให้ตื่นตัวไว้เสมอ พร้อมกล่าวว่า กองทัพเรือได้บังคับใช้แผนรักษาความปลอดภัยแล้ว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เฮอร์ริเคนโอติสอาจก่อให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่งที่เป็นภัยพิบัติรุนแรงได้ ซึ่งนอกเหนือจากลมแรงและน้ำท่วมชายฝั่งแล้ว เฮอร์ริเคนโอติสยังทำให้ยังก่อให้เกิดฝนให้มีฝนตกในปริมาณมาก ปริมาณน้ำฝนอาจสูง 8-16 นิ้ว โดยบางพื้นที่ของรัฐเกร์เรโรและรัฐวาฮากา อาจมีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 20 นิ้ว
"ปริมาณน้ำฝนนี้จะก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำท่วมในเขตเมือง รวมถึงโคลนถล่มในพื้นที่ภูเขาสูง" ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ กล่าว พร้อมคาดการณ์ว่าเฮอร์ริเคนโอติสจะเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ทางตอนใต้ของเม็กซิโกในวันถัดไป หรือในเวลาใกล้เคียง
ข้อมูลจากเว็บไซต์ของ NHC ระบุว่า พายุเฮอร์ริเคนระดับ 5 สามารถทำลายบ้านเรือนที่มีโครงเหล็ก ทำให้หลังคาปลิวหลุดและกำแพงพังทลายได้ นอกจากนี้ ไฟฟ้าดับจากพายุอาจกินเวลานานหลายสัปดาห์หรืออาจนานหลายเดือน และพื้นที่ส่วนใหญ่จะไม่สามารถอยู่อาศัยได้เป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน
ทั้งนี้ นายฟิล คลอตบัค นักวิจัยด้านพายุเฮอร์ริเคน ประจำมหาวิทยาลัยโคโลราโด กล่าวบนโพสต์โซเชียลมีเดียก่อนหน้านี้ว่า ความเร็วลมสูงสุดของพายุเฮอร์ริเคนเพิ่มขึ้น 80 ไมล์ต่อชั่วโมง ในช่วง 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอัตราที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ในแปซิฟิกตะวันออก นับตั้งแต่ยุคดาวเทียมเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2509