นักวิเคราะห์กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักได้ทำลายทุ่งข้าวสาลีในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย ซึ่งอาจส่งผลให้ผลผลิตลดลงมากกว่า 100,000 ตัน และเมล็ดข้าวสาลีมากกว่า 1 ล้านตัน ไม่สามารถสีเพื่อการบริโภคได้ และต้องกลายเป็นพืชอาหารสัตว์
ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลก และในขณะนี้การเก็บเกี่ยวได้ดำเนินไปครึ่งทางแล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สภาพอากาศร้อนอบอ้าวและปริมาณฝนที่ไม่เพียงพอในช่วงต้นปี ส่งผลให้การคาดการณ์ผลผลิตลดลงเหลือ 25.28 ล้านตัน จากประมาณ 40 ล้านตันในปีที่แล้ว แต่คาดว่าข้าวสาลีที่เก็บเกี่ยวได้จะมีคุณภาพสูง แม้ว่าปริมาณจะลดลงก็ตาม
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลียระบุว่า ฝนเริ่มตกมากขึ้นในเดือนพ.ย. โดยในช่วงระยะเวลา 24 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 28-29 พ.ย. มีปริมาณน้ำฝนมากกว่า 200 มิลลิเมตรในพื้นที่บางส่วนของรัฐนิวเซาท์เวลส์ และมากกว่า 80 มิลลิเมตรในพื้นที่บางส่วนของรัฐวิกตอเรีย
นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งเตือนสภาพอากาศรุนแรง โดยฝนตกหนักและลมแรงได้สร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่การเก็บเกี่ยวข้าวสาลีกำลังดำเนินอยู่
ทั้งนี้ ฝนที่ตกหนักทำให้เครื่องจักรขนาดใหญ่ไม่สามารถทำงานได้ และพืชผลที่หลงเหลืออยู่ในทุ่งอาจเกิดเชื้อราได้