ผู้เชี่ยวชาญเตือนออสเตรเลียเผชิญความเสี่ยงจากไฟป่า-ภัยแล้งเพิ่มขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญของออสเตรเลียเตือนว่า ออสเตรเลียจะเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากเหตุไฟป่าในช่วงฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึง และคาดว่าสภาพอากาศจากปรากฏการณ์เอลนีโญจะยิ่งทำให้เกิดภาวะแห้งแล้งและร้อนจัดมากขึ้นทั่วประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ฝนที่ตกต่อเนื่องเป็นเวลานาน 3 ปีส่งผลให้พืชผลในออสเตรเลียเพิ่มขึ้น แต่คลื่นความร้อนที่รุนแรงซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนเดือนธ.ค.-ก.พ. สามารถเปลี่ยนพื้นที่อันเขียวชอุ่มให้กลายเป็นพื้นที่ป่าที่แห้งแล้งและติดไฟได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศได้ส่งผลให้เกิดสภาพอากาศแบบสุดขั้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา "เมื่อเทียบกับแนวโน้มในฤดูใบไม้ผลิ เมืองหลวงหลายแห่งกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น" นายเมอร์เรย์ วัตต์ รัฐมนตรีกระทรวงการจัดการเหตุฉุกเฉินของออสเตรเลียระบุในแถลงการณ์ พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนอัปเดตแผนไฟป่า และจัดเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินและชุดอพยพ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ออสเตรเลียเผชิญกับคลื่นความร้อนจัดในช่วงฤดูใบไม้ผลิในเดือนก.ย. ซึ่งก่อให้เกิดไฟป่าหลายสิบครั้ง และส่งผลให้นครซิดนีย์ต้องออกคำสั่งห้ามจุดไฟทุกประเภท แม้ฝนที่ตกลงมาทางตะวันออกทำให้ไฟป่าดับไปหลายครั้งก็ตาม

สภาเพื่อการบริการดับเพลิงและเหตุฉุกเฉินแห่งชาติของออสเตรเลีย (National Council for Fire and Emergency Services) ระบุในรายงานแนวโน้มไฟป่าว่า ภาวะภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์และอุณหภูมิที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยคาดว่าจะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2567

"เรากำลังจับตาฤดูร้อนของเราที่คาดว่าจะมีความท้าทายอย่างมาก ทุกอย่างที่เราเผชิญอยู่ตอนนี้เกิดขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบนโลกที่ร้อนขึ้นและมีความผันผวนมากขึ้น" นายไซมอน แบรดชอว์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของสภาภูมิอากาศ (Climate Council) ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร กล่าว