สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของไอซ์แลนด์รายงานว่า ภูเขาไฟลูกหนึ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ได้ปะทุขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (18 ธ.ค.) โดยพ่นลาวาและควันออกมาเป็นบริเวณกว้าง หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมานานหลายสัปดาห์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อเดือนที่แล้ว ทางการไอซ์แลนด์ได้สั่งอพยพชาวบ้านเกือบ 4,000 คนจากเมืองประมงกรินดาวิกและสั่งปิดสปาความร้อนใต้พิภพบลูลากูนในบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากกังวลว่าจะเกิดเหตุภูเขาไฟปะทุครั้งใหญ่บนคาบสมุทรเรคยาเนส
สำนักงานอุตุฯ ระบุข้อความบนเว็บไซต์ว่า "คำเตือน: การปะทุเริ่มต้นขึ้นทางเหนือของกรินดาวิก ใกล้กับฮากาเฟล" พร้อมรายงานว่ารอยแตกบนพื้นผิวโลกมีความยาวประมาณ 3.5 กิโลเมตร และได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
คริสติน จอนส์ดอตตีร์ นักแผ่นดินไหววิทยาชาวไอซ์แลนด์ เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ RUV ว่า ลาวาพุ่งออกมาประมาณ 100-200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งมากกว่าการปะทุครั้งก่อน ๆ ในพื้นที่นี้หลายเท่า
ตำรวจท้องที่ได้ยกระดับการเตือนภัยอันเป็นผลมาจากการปะทุครั้งนี้ และหน่วยงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของไอซ์แลนด์ก็เตือนประชาชนอย่าเข้าใกล้พื้นที่ดังกล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังประเมินสถานการณ์
ด้านสนามบินนานาชาติเคฟลาวิกในกรุงเรคยาวิกยังคงเปิดให้บริการ แม้ว่าจะมีเที่ยวบินล่าช้าทั้งขาเข้าและขาออกก็ตาม
ทางการไอซ์แลนด์กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คาบสมุทรเรคยาเนสเกิดเหตุภูเขาไฟปะทุหลายครั้งในพื้นที่ที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ แต่การปะทุครั้งล่าสุดนี้อาจเป็นอันตรายต่อเมืองกรินดาวิก
พื้นที่ดังกล่าวเคยเกิดแผ่นดินไหวหลายพันครั้งในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา แต่ความรุนแรงของแผ่นดินไหวลดลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญบางรายคิดว่าความเสี่ยงของภูเขาไฟปะทุได้ลดลงแล้ว
อนึ่ง เรคยาเนสซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเรคยาวิก เป็นจุดที่ขึ้นชื่อเรื่องภูเขาไฟปะทุและแผ่นดินไหว โดยในเดือนมี.ค. 2564 เกิดน้ำพุลาวาปะทุขึ้นจากรอยแยกยาว 500-750 เมตรบนพื้นในระบบภูเขาไฟฟากราดาลสฟยาลล์ (Fagradalsfjall)