สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันนี้ (16 ม.ค.) ว่า จีนได้เปิดตัวแผนพัฒนาเศรษฐกิจสีเงิน (Silver Economy) หรือเศรษฐกิจผู้สูงวัย ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่าล้านล้านดอลลาร์ เพื่อรับมือจำนวนประชากรผู้สูงวัยที่ต้องการบริการต่าง ๆ ตั้งแต่บริการส่งอาหาร ไปจนถึงบ้านพักคนชราและตัวเลือกด้านความบันเทิง
จีนระบุในเอกสารที่เผยแพร่โดยคณะมนตรีรัฐกิจว่า จีนต้องการให้บริษัทของรัฐและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม โดยบริษัทเหล่านี้จะได้รับการสนับสนุนให้ปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค เช่น เสื้อผ้า ยานพาหนะ และอาหาร ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้สูงอายุ อีกทั้งอุปกรณ์อัจฉริยะและ VR คาดว่าจะช่วยลดการขาดแคลนแรงงานและยกระดับคุณภาพการดูแลผู้สูงอายุ
หนังสือพิมพ์ปักกิ่งนิวส์รายงานโดยอ้างสถาบันคลังสมองของรัฐบาลจีนว่า เศรษฐกิจผู้สูงวัยจะมีมูลค่าประมาณ 30 ล้านล้านหยวน (4.2 ล้านล้านดอลลาร์) ในทศวรรษหน้า ซึ่งคิดเป็น 10% ของมูลค่ารวมของเศรษฐกิจจีนทั้งหมดภายในปี 2578
รัฐบาลท้องถิ่นของจีนจะสามารถเสนอขายพันธบัตรพิเศษเพื่อกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจผู้สูงวัย ในขณะที่ธนาคารต่าง ๆ ได้รับการส่งเสริมให้ขยายสินเชื่อไปยังสถานดูแลผู้สูงอายุและธุรกิจที่เน้นการอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเศรษฐกิจผู้สูงอายุถึง 10 แห่งในเมืองใหญ่
ทั้งนี้ ผลพวงจากอัตราการเกิดจำนวนมากในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1960 รวมถึงนโยบายลูกคนเดียวที่ใช้งานมานานหลายทศวรรษได้ทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่มีประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดประเทศหนึ่ง โดยคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ระบุว่า 1 ใน 5 ของประชากรจีนจำนวน 1.4 พันล้านคน เป็นประชากรที่มีอายุ 60 ขึ้นไปเมื่อนับจนถึงสิ้นปี 2565 ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวคาดว่าจะเกิน 30% ในทศวรรษหน้า