แมรี คัลลาแฮน เออร์โดส์ ประธานฝ่ายบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่งของเจพีมอร์แกนเปิดเผยว่า เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ตรวจพบว่ามีแฮกเกอร์จำนวนมากขึ้นที่พยายามเจาะเข้าระบบของธนาคาร ในขณะที่กลุ่มธนาคารยังคงต่อสู้กับอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก
"พวกฉ้อโกงนั้นฉลาดขึ้น เชี่ยวชาญขึ้น เร็วขึ้น หลอกลวงและมีเล่ห์เหลี่ยมมากขึ้น เป็นเรื่องที่ยากมากในการรับมือและจะยากขึ้นเรื่อย ๆ และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมการนำหน้าไปหนึ่งก้าวนั้นจึงเป็นงานของพวกเราทุก ๆ คน" นางเออร์โดส์กล่าวในระหว่างการประชุมเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ที่เมืองดาวอส ของสวิตเซอร์แลนด์
ภายหลังการประชุม เจพีมอร์แกนได้ชี้แจงคำแถลงของนางเออร์โดส์เกี่ยวกับความพยายามที่เพิ่มขึ้นของแฮกเกอร์ในการเจาะระบบธนาคาร
"นางเออร์โดส์ระบุถึงกิจกรรมที่เราเฝ้าติดตามซึ่งรวบรวมจากสินทรัพย์ด้านเทคโนโลยีของเรา ไม่ว่าจะเป็นอันตรายหรือไม่ก็ตาม กิจกรรมจะถูกประมวลผลโดยโครงสร้างพื้นฐานการตรวจสอบของเรา" โจเซฟ อีวานเจลิสตี โฆษกของเจพีมอร์แกนระบุในแถลงการณ์ "ตัวอย่างกิจกรรมนั้นอาจรวมถึงการเข้าใช้งาน เช่น การเข้าสู่ระบบบนเดสก์ท็อปเสมือนของพนักงาน และการสแกน ซึ่งมักจะเป็นไปโดยอัตโนมัติและไม่ได้กำหนดเป้าหมายใด ๆ"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ขณะที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกหลังจากรัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้วนั้น กลุ่มธนาคารต้องเผชิญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยผลการสำรวจของเคพีเอ็มจี (KPMG) พบว่า ผู้นำในภาคธนาคารกว่า 70% ในปี 2566 มองว่า อาชญากรรมทางไซเบอร์และความไม่มั่นคงทางไซเบอร์นั้นเป็นปัญหาเร่งด่วนสำหรับองค์กร