บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ออกแถลงการณ์ในวันจันทร์ (29 ม.ค.) ขอให้เจ้าของรถยนต์รุ่นเก่าในสหรัฐจำนวน 50,000 คันนำรถเข้ารับการซ่อมแซมทันที หลังพบว่าลูกแก๊สถุงลมนิรภัยในรถยนต์ (Airbag Inflator) อาจเกิดระเบิดและเป็นอันตรายถึงชีวิตสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์
โตโยต้าได้ออกคำเตือน "อย่าขับรถ" ครอบคลุมรถยนต์โคโรลลา (Corolla) รุ่นปี 2003-2004, โคโรลลาเมทริกซ์ (Corolla Matrix) รุ่นปี 2003-2004 และราฟโฟร์ (RAV4) รุ่นปี 2004-2005 ที่ติดตั้งลูกแก๊สถุงลมนิรภัยของบริษัททาคาตะ (Takata)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา พบผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 รายทั่วโลก รวมถึงผู้เสียชีวิตในสหรัฐ 26 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายร้อยรายที่เชื่อมโยงกับการระเบิดของลูกแก๊สถุงลมนิรภัยยี่ห้อทาคาตะ
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์มากกว่า 20 รายได้เรียกคืนลูกแก๊สถุงลมนิรภัยยี่ห้อทาคาตะมากกว่า 67 ล้านลูกในสหรัฐ และมากกว่า 100 ล้านลูกทั่วโลก ซึ่งนับเป็นการเรียกคืนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยานยนต์
โตโยต้าระบุว่า การเรียกคืนรถรุ่นราฟโฟร์เกี่ยวข้องกับถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับ ในขณะที่การเรียกคืนรถรุ่นอื่น ๆ เกี่ยวข้องกับถุงลมนิรภัยฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าเท่านั้น นอกจากนี้ รถโคโรลลาและโคโรลลาเมทริกซ์บางรุ่นยังถูกเรียกคืนเป็นครั้งที่สอง เนื่องจากข้อกังวลที่ว่าถุงลมนิรภัยอาจทำงานแม้ว่าจะไม่มีอุบัติเหตุก็ตาม
ก่อนหน้านี้ ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ได้ออกคำเตือน "อย่าขับรถ" สำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งลูกแก๊สถุงลมนิรภัยยี่ห้อทาคาตะรุ่นเก่า หลังจากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงชีวิตหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม โตโยต้าปฏิเสธที่จะตอบว่าการออกคำเตือน "อย่าขับรถ" ของบริษัทนั้น เกิดจากการบาดเจ็บสาหัสหรือการเสียชีวิตในรถยนต์ของบริษัทหรือไม่
ทั้งนี้ สำนักงานความปลอดภัยด้านการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐ (NHTSA) ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ ต่อรายงานดังกล่าว