สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า บีพี (BP) ได้ระงับการดำเนินงานโรงกลั่นไฮโดรคาร์บอนในเมืองไวทิง รัฐอินเดียนาของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) หลังเกิดเหตุหม้อแปลงไฟฟ้าขัดข้อง ส่งผลให้ไฟฟ้าดับทั่วทั้งโรงงาน และพนักงานเกือบทั้งหมดต้องอพยพออกจากพื้นที่ ยกเว้นเฉพาะพนักงานที่จำเป็น และยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใดในการกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง
โรงกลั่นดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบมิชิแกน ห่างจากตัวเมืองชิคาโกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 32 กิโลเมตร มีกำลังการผลิต 435,000 บาร์เรลต่อวัน และเป็นโรงกลั่นของบีพีที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคมิดเวสต์ของสหรัฐ และใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ
บีพีระบุในแถลงการณ์ว่า โรงกลั่นแห่งนี้ต้องระงับการดำเนินงานชั่วคราว เนื่องจากไฟฟ้าขัดของ ซึ่งส่งผลให้พนักงานต้องอพยพออกจากอาคารสำนักงาน และทางบริษัทได้จัดทีมรับมือเหตุฉุกเฉิน เพื่อเข้าไปจัดการสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
แหล่งข่าวระบุว่า การอพยพพนักงานดังกล่าว เป็นการอพยพครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี
เหตุโรงกลั่นไวทิงยุติการดำเนินงาน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเที่ยงวัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลในพื้นที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากเกิดกระแสกังวลว่าซัพพลายน้ำมันจะมีจำนวนจำกัด นอกจากนี้แล้ว ยังส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบของแคนาดาปรับตัวลง เพราะกังวลว่าดีมานด์จะลดลง
ทั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่โรงกลั่นแห่งนี้ต้องยุติการดำเนินงาน โดยย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2565 โรงกลั่นต้องปิดตัวลงเนื่องจากเกิดเหตุไฟไหม้สายไฟฟ้า ส่งผลให้การจ่ายน้ำหล่อเย็นของโรงงานหยุดชะงักลง และต้องใช้เวลาประมาณ 10 วัน กว่าจะกลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้ง