กระแสวิพากษ์วิจารณ์อันร้อนแรงในประเด็นที่ ลิโอเนล เมสซี (Lionel Messi) นักเตะซูเปอร์สตาร์ทีมชาติอาร์เจนตินา แห่งสโมสรอินเตอร์ไมอามี (Inter Miami) ไม่ลงสนามในเกมการแข่งขันกระชับมิตรที่ฮ่องกง ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงโดยง่าย และการที่เขาลงสนามแข่งที่ญี่ปุ่น เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น ยิ่งสุมไฟให้เรื่องนี้ร้อนแรงยิ่งขึ้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความเห็นของนายเคนเน็ธ ฟ็อก สมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกง ฝ่ายกิจการการกีฬา ที่ออกมากล่าวหา เมสซี และสโมสรอินเตอร์ ไมอามี ว่าไร้ซึ่งความเคารพต่อแฟน ๆ ได้กลายเป็นหนึ่งในหัวข้อติดเทรนด์ยอดนิยมสูงสุดบนเว่ยป๋อ (Weibo) ในวันพุธ (7 ก.พ.) นอกจากนี้ อีกหนึ่งหัวข้อมีชื่อเรียกว่า "Messi?s Mess" หรือแปลได้ว่า "ความเละเทะของเมสซี่" ก็ติดเทรนด์ฮิตเช่นกัน
เมสซีเดินทางมายังฮ่องกงเพื่อร่วมเกมการแข่งขันกระชับมิตรระหว่างสโมสรอินเตอร์ ไมอามี กับสโมสรฮ่องกง XI (Hong Kong XI) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยการแข่งขันดังกล่าวเป็นที่ตั้งตารออย่างมาก และมีแฟน ๆ จำนวนมากทั้งชาวฮ่องกงและชาวต่างชาติมารอชมฝีเท้าของนักเตะแข้งทองระดับตำนาน ผู้ครองแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งล่าสุด
อย่างไรก็ตาม เมสซีไม่ได้ลงแข่งขัน และนั่งอยู่บนม้านั่งผู้เล่นสำรองริมสนามตลอด 90 นาทีจนจบเกม ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับแฟน ๆ เป็นอย่างยิ่ง พวกเขาส่งเสียงโห่ตลอดเกมและเรียกร้องขอคืนเงินค่าตั๋ว
เมสซี ได้โพสต์ชี้แจงบนเว่ยป๋อว่าในช่วงค่ำของวันพุธ (7 ก.พ.) เขาเสียใจที่ไม่สามารถลงสนามในการแข่งขันที่ฮ่องกงได้ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อขาหนีบ ซึ่งเขาได้อธิบายถึงสาเหตุเดียวกันนี้ระหว่างการแถลงข่าวในกรุงโตเกียวเมื่อวันอังคาร (6 ก.พ.)
"เพื่อน ๆ ทุกคนที่รู้จักผมต่างรู้ดีว่าผมมุ่งมั่นที่จะเล่นอย่างเต็มที่ในทุก ๆ ครั้งที่ผมลงสนามแข่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผมเดินทางไปแข่งในแดนไกลเคียงข้างกับเพื่อนร่วมทีม" เมสซี่กล่าว พร้อมเสริมว่าเขาตั้งตารอที่จะกลับไปยังฮ่องกงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อแบ่งปันความสุขของฟุตบอลร่วมกับแฟน ๆ
ประเด็นดราม่าดังกล่าวยังลามออกไปนอกฮ่องกงอีกด้วย โดยนายหู สีจิน อดีตหัวหน้าบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สของจีน ได้ออกมาตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการไม่ลงสนามแข่งของเมสซี และยังตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใด เมสซี ถึงไม่จับมือกับนายจอห์น ลี ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และเรียกร้องให้เมสซีออกมาขอโทษแฟน ๆ ชาวจีน
ทั้งนี้ ความเดือดดาลของสาธารณชนเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อความร่วมมือระหว่างเมสซีกับแบรนด์ต่าง ๆ ของจีน โดยบนโพสต์เว่ยป๋อที่เมสซีโปรโมทแบรนด์เหล้าฉือสุ่ยเหอ (Chi Shui He) ของจีน ซึ่งโพสต์ขึ้นตั้งแต่ก่อนการแข่งขัน เต็มไปด้วยคอมเมนต์โจมตีหลายร้อยความเห็น และหลายคนยังเรียกร้องให้ทางแบรนด์ยกเลิกสัญญากับเมสซีอีกด้วย