สำนักงานตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของสหภาพยุโรปเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (8 ก.พ.) ว่า โลกเพิ่งเผชิญกับเดือนมกราคมที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยนับเป็นช่วง 12 เดือนแรกที่อุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรมมากกว่า 1.5 องศาเซลเซียส
ปี 2566 นับเป็นปีที่ร้อนที่สุดในโลกเมื่อนับย้อนหลังไปในปี 2393 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่เกิดจากมนุษย์และปรากฏการณ์เอลนีโญทำให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้น โดยเอลนีโญเป็นรูปแบบสภาพอากาศที่เกิดจากอุณหภูมิผิวน้ำทะเลของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกอบอุ่นขึ้น
แมตต์ แพตเตอร์สัน นักฟิสิกส์บรรยากาศจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดกล่าวว่า "นับเป็นเรื่องใหญ่ที่เห็นอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกในช่วง 12 เดือนสูงเกินกว่าอุณหภูมิก่อนยุคอุตสาหกรรมเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียสเป็นครั้งแรก"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เดือนมกราคมที่ร้อนที่สุดก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในปี 2563 ตามบันทึกของ Copernicus Climate Change Service (C3S) ซึ่งเป็นระดับอุณหภูมิสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2493
ประเทศต่าง ๆ ได้ตกลงในการเจรจาเรื่องสภาพอากาศของสหประชาชาติ (UN) ที่กรุงปารีสในปี 2558 ว่าจะจำกัดภาวะโลกร้อนไว้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียสและตั้งเป้าจะจำกัดโลกร้อนไว้ที่ 1.5 องศาเซลเซียสจากระดับอุณหภูมิก่อนยุคอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นข้อจำกัดที่สำคัญในการป้องกันการเกิดผลกระทบที่ร้ายแรงที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา หากอุณหภูมิโลกร้อนขึ้นเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียส