สำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินของโตเบโก (TEMA) เปิดเผยในวันพุธ (14 ก.พ.) ว่า หลังจากพบคราบน้ำมันรั่วไหลบริเวณชายฝั่งโตเบโกมาเป็นเวลานาน 1 สัปดาห์ ล่าสุดคราบน้ำมันบางส่วนถูกคลื่นซัดออกจากชายฝั่งไปสู่ทะเลแคริบเบียน พร้อมเตือนให้ประเทศเพื่อนบ้านเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
รัฐบาลสาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโก ระบุว่า เหล่าผู้ปฏิบัติการฉุกเฉินเบื้องต้นและอาสาสมัครต่างกำลังพยายามควบคุมการรั่วไหลของน้ำมันเป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อท่าเรือสำราญในบริเวณใกล้เคียง แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
นายอัลลัน สจ๊วต ผู้อำนวยการของ TEMA ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ภาพถ่ายดาวเทียมและแบบจำลองบ่งชี้ว่า คลื่นได้พัดพาน้ำมันบางส่วนออกสู่ทะเลแคริบเบียนผ่านทางตอนเหนือของเวเนซุเอลา ดังนั้น ชายหาดหลายแห่งของตรินิแดดและโตเบโก โดยเฉพาะชายหาดที่มีแนวปะการัง รวมถึงชายฝั่งของประเทศเพื่อนบ้าน มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมัน โดยกองกำลังรักษาดินแดนทางอากาศของตรินิแดดจะส่งเครื่องบินไปลาดตระเวนเพื่อยืนยันข้อมูลดังกล่าว
กระทรวงความมั่นคงแห่งชาติของตรินิแดดเปิดเผยว่า หน่วยยามฝั่งตรินิแดดพบว่ามีเรืออย่างน้อยสองลำ นั่นคือเรือลากจูงและเรือขนส่งสินค้าที่มุ่งหน้าสู่ประเทศกายอานา มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุน้ำมันรั่วดังกล่าว
รายงานระบุว่า เรือลากจูงชื่อ โซโล ครีด (Solo Creed) จากปานามา ได้ลากจูงเรือขนส่งสินค้าดังกล่าว โดยเรือทั้งสองลำถูกจับภาพได้ด้วยดาวเทียม 3 วันก่อนเกิดเหตุ ในขณะที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์
ทั้งนี้ ภาพถ่ายที่ TEMA เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (13 ก.พ.) แสดงให้เห็นความคืบหน้าในการทำความสะอาดชายหาดของโตเบโก โดยนายสจ๊วตระบุว่า ประมาณ 1 ใน 3 ของชายฝั่งความยาว 15 กิโลเมตรตามแนวมหาสมุทรแอตแลนติกได้รับการทำความสะอาดแล้ว และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้มากขึ้น