ตำรวจเผยเหตุกราดยิงพาเหรด "ซูเปอร์โบวล์" เป็นการทะเลาะวิวาท ไม่ใช่ก่อการร้าย

ตำรวจสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ (15 ก.พ.) ว่า เหตุกราดยิงในเมืองแคนซัส ซิตี รัฐมิสซูรีของสหรัฐ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 22 ราย ในขบวนพาเหรดฉลองชัยชนะในการแข่งขันชิงแชมป์อเมริกันฟุตบอลของเนชันแนลฟุตบอลลีก (NFL) หรือการแข่งขันซูเปอร์โบวล์ (Super Bowl) นั้น มีสาเหตุจากการทะเลาะวิวาทของคนหลายคน ไม่ได้เป็นการก่อการร้าย

สเตซีย์ กราเวส ผู้บัญชาการตำรวจเมืองแคนซัส ซิตี ระบุในการแถลงข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 3 ราย โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้เยาว์ 2 ราย

อย่างไรก็ตาม อไลนา กอนซาเลซ โฆษกของตำรวจระบุว่า ผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 ซึ่งเป็นเยาวชน ได้รับการยืนยันแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ จึงได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำงานร่วมกับอัยการเยาวชนเพื่อพิจารณาหลักฐาน และประเมินว่าจะตั้งข้อหากับเยาวชนทั้ง 2 คนอย่างไรบ้าง

ผู้บัญชาการตำรวจกล่าวกับนักข่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้อาวุธปืนได้หลายกระบอกในที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่า "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะเป็นการกระทบกระทั่งกันระหว่างหลายคน ซึ่งจบลงด้วยการยิงกัน" ซึ่งบ่งชี้ว่าการยิงกันนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยมิได้ตั้งใจ ไม่ได้เป็นการก่อการร้ายที่วางแผนไว้แล้ว

ผู้บัญชาการตำรวจเมืองแคนซัส ซิตี กล่าวว่า "การตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบความเชื่อมโยงกับการก่อการร้ายหรือลัทธิหัวรุนแรงในท้องถิ่น"

สำหรับการแข่งขันซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 58 ระหว่างทีมแคนซัส ซิตี ชีฟส์ (Kansas City Chiefs) กับทีมซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส (San Francisco 49ers) มียอดผู้ชมในสหรัฐสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 123.7 ล้านคน โดยเกมการแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือดสูสีและต้องต่อเวลาพิเศษ เนื่องจากแต้มเสมอกันหลังแข่งไป 4 ควอเตอร์ และในท้ายที่สุดทีมแคนซัส ซิตี ชีฟส์ สามารถทำแต้มทัชดาวน์ได้ในช่วงไม่กี่วินาทีสุดท้าย คว้าชัยไปด้วยสกอร์ 25-22