เขตซินเจียงทางตะวันตกของจีนมีอุณหภูมิดิ่งต่ำสุดในรอบ 64 ปี แตะระดับ -52.3 องศาเซลเซียส ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวจัดและการจราจรติดขัดหลังหมดช่วงหยุดยาวของเทศกาลตรุษจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ (19 ก.พ.) ว่า หลายพื้นที่ในจีนกำลังเผชิญกับอากาศหนาวจัดสุดขั้วอีกรอบ ขณะที่ผู้คนต่างทยอยเดินทางกลับจากการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนที่หยุดยาวตลอด 1 สัปดาห์ โดยในช่วงก่อนเทศกาลก็มีพายุหิมะและพายุลูกเห็บตกหนัก จนคนติดค้างตามสถานีรถไฟและบนท้องถนน
สื่อทางการรายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18 ก.พ.) ในตำบลถูเอ่อร์ อำเภอฟู่ยุวิ่น ได้ทำสถิติอุณหภูมิต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ในเขตซินเจียงที่ -52.3 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติเดิมที่อุณหภูมิ -51.5 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2503
อุณหภูมิดังกล่าวรองลงมาจากสถิติของจีนทั้งประเทศที่เมืองม่อเหอ มณฑลเฮย์หลงเจียงทางตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ -53 องศา
สถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีนรายงานว่า อากาศหนาวและหิมะตกตลอดหลายวันจนส่งผลกระทบต่อถนนความยาว 853 กิโลเมตรทั่วจังหวัดอัลไต ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทางหลวงต้องระดมรถ 47 คัน และเจ้าหน้าที่กู้ภัย 86 คนออกมากำจัดหิมะตลอดทั้งคืน
CCTV รายงานตัวเลขจากกระทรวงคมนาคมจีนซึ่งระบุว่า เขตมองโกเลียในและซินเจียง ตลอดจนมณฑลเหลียวหนิง จี๋หลิน และเฮย์หลงเจียง มีการปิดถนนไปแล้ว 43 ช่วง และด่านเก็บค่าผ่านทางอีก 623 ด่าน
หนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ของจีนรายงานว่า หน่วยงานด้านสภาพอากาศแห่งชาติได้ยกระดับคำเตือนสภาพอากาศหนาวจัดเป็นระดับสูงสุดเป็นอันดับสอง โดยคาดว่าอุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็วทั่วประเทศจนถึงวันพฤหัสบดีนี้ (22 ก.พ.) พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจะรวมถึงบางส่วนของมองโกเลียใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน มณฑลหูเป่ยทางตอนกลาง และหูหนานทางตอนใต้
ทั้งนี้ สภาพอากาศสุดขั้วของจีนในช่วงปีที่ผ่านมามีตั้งแต่พายุทราย ฝนตกหนัก อากาศร้อนทำลายสถิติในช่วงฤดูร้อน ไปจนถึงพายุไต้ฝุ่นอีกหลายลูก
ส่วนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลาย ๆ เมืองในเขตหนิงเซี่ยหุย รวมทั้งเมืองหลวงประจำเขตอย่างอิ๋นชวน โดนพายุทรายพัดปกคลุมอย่างหนัก