สมาคมผู้ถือหุ้นด้วยความมีจริยธรรมแห่งเยอรมนี (Association of Ethical Shareholders Germany) เรียกร้องให้กองทุนเพื่อการลงทุนอย่างยั่งยืน ขายหุ้นโฟล์คสวาเกน กรุ๊ป เนื่องด้วยประเด็นการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ ในภูมิภาคซินเจียงของจีน
สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โฟล์คสวาเกน ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสองของโลก ได้เผชิญกับข้อกล่าวหาว่าใช้แรงงานชาวอุยกูร์ในการดำเนินงานกิจการร่วมทุนกับเอสเอไอซี มอเตอร์ (SAIC Motor) ซึ่งเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจจีน และส่งผลให้นักลงทุนรายใหญ่เทขายหุ้นของบริษัท
หนังสือพิมพ์ฮันเดลส์บลัตต์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ธุรกิจของเยอรมนี รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เอสเอไอซี โฟล์คสวาเกน ออโตโมทีฟ (SAIC Volkswagen Automotive) ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของกิจการร่วมค้าดังกล่าว ได้บังคับแรงงานชาวอุยกูร์ในการสร้างสนามทดสอบในเมืองถูหลูฟานของซินเจียงในปี 2562
รายงานระบุว่า จีนเคยถูกกล่าวหาหลายต่อหลายครั้งเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของชาวอุยกรู์ ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
สมาคมผู้ถือหุ้นด้วยความมีจริยธรรมแห่งเยอรมนีกล่าวว่า โฟล์คสวาเกนไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน
"เราเรียกร้องให้โฟล์คสวาเกนตรวจสอบห่วงโซ่อุปทานในจีนอย่างละเอียดเพื่อให้มั่นใจได้ว่าส่วนประกอบและวัสดุที่ผลิตในซินเจียงไม่ได้ผลิตโดยการบังคับใช้แรงงาน แต่เหตุการณ์ล่าสุดทำให้เกิดข้อสงสัยถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของพวกเขาในการดำเนินการดังกล่าว" นายทิลมาน มาสซา ผู้อำนวยการร่วมของสมาคมฯ กล่าว
ด้านโฆษกของโฟล์คสวาเกนกล่าวกับสำนักข่าวนิกเกอิเอเชียเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า บริษัทกำลังเจรจากับเอสเอไอซี เกี่ยวกับอนาคตของการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคซินเจียง โดยสำรวจสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างจริงจังและเข้มงวด
โฆษกชี้ว่า การตรวจสอบสนามทดสอบในเมืองถูหลูฟาน ในฐานะส่วนหนึ่งของการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลนั้นไม่สามารถทำได้ เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวเป็นของบริษัทอื่นที่กำลังดำเนินกิจการอยู่
ทั้งนี้ การตรวจสอบดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มอร์แกน สแตนลีย์ แคปิตอล อินเตอร์เนชันแนล (MSCI) ออกมาแสดงความกังวลเรื่องข้อกล่าวหาว่าด้วยการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์เมื่อเดือนพ.ย. 2565 ซึ่งหลังจากนั้น เดกา อินเวสท์เมนท์ (Deka Investment) หนึ่งในนักลงทุนรายใหญ่ของโฟล์คสวาเกน ได้ถอดบริษัทออกจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนในเดือนมี.ค. 2566