ออสเตรเลียสั่งอพยพประชาชนหลายหมื่นคนในรัฐวิกตอเรียทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศในวันนี้ (28 ก.พ.) เนื่องจากคลื่นความร้อนจัดที่พัดผ่านรัฐวิกตอเรียอาจทำให้ไฟป่าครั้งใหญ่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐวิกตอเรียถูกจัดให้เป็นพื้นที่ประสบไฟป่ารุนแรง โดยเฉพาะเขตวิมเมอราทางตะวันตกถูกจัดอยู่ในระดับภัยพิบัติ ซึ่งเป็นระดับการเตือนภัยสูงสุด ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยารายงานว่า เมืองมิลดูรา ซึ่งเป็นเมืองชนบทที่มีประชากรประมาณ 56,000 คน อาจเผชิญกับอุณหภูมิสูงถึง 45 องศาเซลเซียส
เมืองหลายแห่งในชนบทถูกระบุว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากไฟป่า เจ้าหน้าที่จึงประกาศให้ชาวเมืองราว 30,000 คนอพยพออกจากบ้านเรือนอย่างเร่งด่วนภายในเช้าวันนี้
นายเจสัน เฮฟเฟอร์แนน หัวหน้าหน่วยดับเพลิงรัฐวิกตอเรีย ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่า "วันนี้จะเป็นวันที่ท้าทายอย่างมากสำหรับนักดับเพลิง และชาวบ้านต้องพร้อมอพยพออกจากพื้นที่ทุกเมื่อ"
นักดับเพลิงหลายร้อยคนยังคงต่อสู้กับไฟป่าใกล้กับเมืองบัลลารัต ซึ่งอยู่ห่างจากนครเมลเบิร์นไปทางตะวันตกราว 95 กม. โดยไฟป่าที่ลุกไหม้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่แล้ว (22 ก.พ.) ได้ทำลายบ้านเรือน คร่าชีวิตปศุสัตว์ และเผาผลาญพื้นที่ไปมากกว่า 200 ตารางกิโลเมตร
ทั้งนี้ คลื่นความร้อนจะพัดผ่านรัฐวิกตอเรีย ก่อนที่จะเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกสู่รัฐนิวเซาท์เวลส์ในวันพรุ่งนี้ (29 ก.พ.) นอกจากนี้ ฟ้าผ่าแห้ง (Dry Lightning) หรือฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นในขณะที่ไม่มีฝนตก อาจก่อให้เกิดไฟป่าจุดใหม่ได้ ในขณะที่ลมแรงตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้อาจทำให้ไฟป่าใกล้กับเมืองบัลลารัตลุกลามมากยิ่งขึ้น