วาลิเชอร์ (Valisure) แล็บวิจัยอิสระของสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันพุธ (6 มี.ค.) ว่า ได้ตรวจพบเบนซีน (benzene) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในระดับสูงในผลิตภัณฑ์รักษาสิวบางชนิดของแบรนด์ต่าง ๆ อาทิ คลีนิกข์ (Clinique) ของเอสเต้ ลอเดอร์, Up & Up ของห้างทาร์เก็ต และ เคลียราซิล (Clearasil) ของบริษัทเรกคิทท์ เบนคีเซอร์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า วาลิเชอร์ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐเพื่อเรียกร้องให้มีการเรียกคืนผลิตภัณฑ์เหล่านี้ พร้อมดำเนินการสอบสวนและปรับปรุงแนวทางสำหรับอุตสาหกรรมต่อไป
ข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นเอสเต้ ลอเดอร์ ร่วงลง 2% นอกจากนี้ วาลิเชอร์ยังรายงานว่าตรวจพบสารเบนซีนในผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ Proactiv, PanOxyl, สบู่ก้อนรักษาสิวของร้านขายยาวอลกรีนส์ และครีมรักษาสิว Equate Beauty จากห้างวอลมาร์ทอีกด้วย
วาลิเชอร์ระบุว่า เบนซีนอาจก่อตัวขึ้นมาใน "ระดับสูงจนไม่อาจยอมรับได้" ในผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีส่วนผสมของเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) ทั้งแบบที่ต้องมีใบสั่งยาและแบบที่หาซื้อเองได้ทั่วไป
ทางเรกคิทท์ออกแถลงการณ์ว่า ผลการทดสอบดังกล่าว "สะท้อนถึงสถานการณ์ที่ไม่สมจริงมากกว่าจะสะท้อนสภาวะในโลกแห่งความเป็นจริง" พร้อมระบุเสริมว่าผลิตภัณฑ์ Clearasil ทั้งหมดมีความปลอดภัย "เมื่อใช้และเก็บรักษาตามคำแนะนำบนฉลาก"
ด้านเอสเต้ ลอเดอร์ก็ระบุว่า Clinique ใช้เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ในผลิตภัณฑ์แค่ตัวเดียว ซึ่ง "ปลอดภัยสำหรับการใช้งานตามที่ระบุไว้"
อนึ่ง สารก่อมะเร็งตัวนี้เคยถูกพบในผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคอื่น ๆ มาก่อนแล้ว รวมถึงครีมกันแดด เจลล้างมือ และดรายแชมพู ส่งผลให้มีการเรียกคืนผลิตภัณฑ์ของบริษัทต่าง ๆ เช่น พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
อย่างไรก็ตาม วาลิเชอร์ระบุว่า การตรวจพบสารเบนซีนในผลิตภัณฑ์รักษาสิวนั้น "แตกต่างไปจากกรณีอื่น ๆ มาก"
"เบนซีนที่เราพบในครีมกันแดดและผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคอื่น ๆ เป็นแค่สารเจือปนที่มากับส่วนผสมที่ปนเปื้อน แต่เบนซีนในผลิตภัณฑ์เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์นั้น มาจากตัวเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์เอง" นายเดวิด ไลท์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานวาลิเชอร์กล่าว
นอกจากนี้ การทดสอบของวาลิเชอร์ยังพบว่า ผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจก่อให้เกิดสารเบนซีนเกินกว่าระดับที่ FDA จำกัดไว้ถึง 800 เท่า