ทางการอินโดนีเซียระบุเมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) ว่า เหตุฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวันส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในจังหวัดสุมาตราตะวันตก ซึ่งทางการอินโดนีเซียต้องอพยพผู้คนมากกว่า 70,000 คน โดยที่ขณะนี้คนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย และสูญหายอีก 7 ราย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ เมืองปาดัง ซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัดสุมาตราตะวันตก และพื้นที่โดยรอบ อีก 8 แห่ง โดยได้ทำลายบ้านเรือนเกือบ 700 หลัง สะพาน และโรงเรียนหลายแห่ง และพื้นที่เกษตรกรรม 113 เฮกตาร์
นายอับดุล มาลิก หัวหน้าทีมกู้ภัยประจำจังหวัดสุมาตราตะวันตก ระบุว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ 150 คนจากหน่วยงานภัยพิบัติต่าง ๆ เพื่อตามหาผู้สูญหาย แต่การค้นหาดังกล่าวถูกสกัดกั้น เนื่องจากดินถล่มกลบถนน
ด้านนายอับดุล มูฮารี โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติของอินโดนีเซีย (BNPB) กล่าวว่า บรรดาผู้อพยพได้รวมตัวกันในมัสยิดที่ใกล้ที่สุด แต่ไม่มีการจัดตั้งที่พักพิงชั่วคราว โดยได้รับอาหาร น้ำ และยารักษาโรค ในขณะที่บางรายกลับบ้านเพราะระดับน้ำลดลง ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ในเมืองปาดังยังคงมีน้ำท่วม โดยถนนในพื้นที่ปาดัง ปาเรียมัน ถูกดินถล่มยาว 50 เมตร
ทั้งนี้ ฤดูฝนของอินโดนีเซียเริ่มต้นในเดือนม.ค. ซึ่งทางสำนักงานอุตุนิยมวิทยาและธรณีฟิสิกส์ของอินโดนีเซีย (BMKG) คาดการณ์ว่า จะมีปริมาณน้ำฝนสูงสุดในช่วงไตรมาส 1/2567 โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเกาะชวาและเกาะสุมาตรา