เจ้าหน้าที่ในตำบลเหยียนเจียว เมืองซานเหอของจีน ได้ออกมาแสดงความขอโทษ หลังนักข่าวจากสำนักข่าวของรัฐถูกสกัดกั้นไม่ให้เข้าทำข่าวเหตุการณ์ระเบิด ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความยากลำบากในการรายงานข่าวในจีน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังคลิปวิดีโอจากสำนักข่าวซีซีทีวีของจีนเผยให้เห็นว่า นักข่าวคนหนึ่งที่กำลังทำงานอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุระเบิด ซึ่งคาดว่ามีสาเหตุมาจากแก๊สรั่ว และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 รายในตำบลเหยียนเจียว ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท้องถิ่นขัดขวางการรายงานโดยระบุว่า "มันอันตรายเกินไป"
เจ้าหน้าที่รับมือภัยพิบัติกล่าวในแถลงการณ์วันนี้ (14 มี.ค.) ว่า "เนื่องด้วยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในแนวหน้ามีทักษะในการสื่อสารที่ไม่ดีนักและใช้วิธีการที่ไม่ค่อยละเอียดอ่อน จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดจากเพื่อน ๆ ในวงการสื่อ และการตั้งคำถามจากประชาชน" และ "รัฐบาลได้ตำหนิเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างรุนแรงในทันทีและส่งเจ้าหน้าที่ไปแสดงความขอโทษต่อเพื่อนนักข่าวที่เกี่ยวข้องแล้ว"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า พรรคคอมมิวนิสต์ของจีนจำกัดความสามารถในการดำเนินงานของนักข่าวในประเทศอย่างเข้มงวด โดยจีนอยู่ในอันดับที่ 179 ในรายงานดัชนีชี้วัดเสรีภาพสื่อโลก (World Press Freedom Index) ซึ่งสูงกว่าเกาหลีเหนือเพียง 1 อันดับเท่านั้น
ทั้งนี้ ภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จีนได้ลดการเปิดเผยข้อมูลของทางการและยกระดับการตอบสนองต่อความลับของทางการ อันเป็นการกระทำที่อาจนำไปสู่การเพิ่มความเสี่ยงให้กับบริษัทต่างชาติ ที่ต้องรับมือกับนิยามของคำว่าความมั่นคงของชาติที่เข้มงวดมากขึ้น
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวที่ฝ่าฝืนข้อบังคับอาจถูกลงโทษอย่างหนัก โดยเฉิง เล่ย ซึ่งเป็นนักข่าวชาวออสเตรเลีย ระบุเมื่อปีที่แล้วว่า เธอถูกควบคุมตัวในจีนเป็นเวลาเกือบ 3 ปี เนื่องจากเธอแชร์เอกสารสรุปอย่างเป็นทางการก่อนที่รัฐบาลจะเผยแพร่เอกสารดังกล่าว