รัฐบาลออสเตรเลียเผยแพร่ผลสำรวจในหัวข้อ "ยุติอคติทางเพศ" ในวันนี้ (14 มี.ค.) โดยระบุว่า ผู้หญิงออสเตรเลียประมาณ 2 ใน 3 ต้องเผชิญกับอคติทางเพศหรือถูกเลือกปฏิบัติระหว่างการรักษาพยาบาล
ผลวิจัยพบว่า ผู้หญิงจากภูมิหลังที่หลากหลาย รวมถึงผู้หญิงที่มีภาวะทุพพลภาพ มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับอคติหรือถูกเลือกปฏิบัติในสถานพยาบาลมากกว่าทั่วไป
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลลัพธ์ดังกล่าวมาจากการสำรวจผู้หญิง บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องรวม 2,800 คน ซึ่งจัดทำโดยสภาที่ปรึกษาด้านสุขภาพสตรีแห่งชาติ และเผยแพร่โดย เจด คาร์นีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและการดูแลผู้สูงอายุ ในการประชุมสุดยอดสุขภาพสตรีแห่งชาติครั้งแรกของออสเตรเลีย ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงแคนเบอร์ราในวันนี้ (14 มี.ค.)
คุณคาร์นีย์กล่าวว่า "นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลออสเตรเลียลงมือจัดการกับปัญหาอคติต่อผู้หญิงในระหว่างการรักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบและมีความซับซ้อน โดยถือเป็นจุดเปลี่ยนด้านสุขภาพสตรีในออสเตรเลีย และดิฉันยินดีที่เรามาถึงจุดนี้ในที่สุด"
รายงานระบุว่า ผู้หญิงมักเผชิญกับการไม่ให้เกียรติและการด้อยค่าในระหว่างการตรวจภายในและการคลอดบุตร
ยกตัวอย่างเช่น หญิงพื้นเมืองในช่วงวัย 18-24 ปีรายหนึ่งที่ตอบแบบสำรวจ เปิดเผยว่าเธอถูก "ข่มเหง" ให้ยอมคุมกำเนิดระยะยาว เพื่อที่จะเข้ารับการผ่าตัดเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
ทั้งนี้ อคติหรือการเลือกปฏิบัติที่พบบ่อยคือ การที่ผู้หญิงรู้สึกว่าถูกบุคลากรทางการแพทย์ละเลย ไม่เชื่อ หรือเหมารวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีอาการที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บปวด