ชาวจีน 5 ราย และชาวปากีสถาน 1 ราย เสียชีวิตจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในแคว้นแชงลา (Shangla) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานเมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) นับเป็นการโจมตีครั้งล่าสุดที่มุ่งเป้ามายังแรงงานและโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรและนักลงทุนรายสำคัญของปากีสถาน
ตำรวจท้องถิ่นระบุว่า กลุ่มติดอาวุธขับรถยนต์บรรทุกระเบิดพุ่งเข้าชนยานพาหนะที่บรรทุกพลเมืองชาวจีน ซึ่งกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่เขื่อนต้าซู (Dasu) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยบริษัทจีน โดยชาวจีนเป็นส่วนหนึ่งของขบวนรถอย่างน้อย 12 คัน ที่ถูกกลุ่มติดอาวุธเข้าโจมตี และเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คนขับรถชาวปากีสถานเสียชีวิตไปด้วย
โครงการไฟฟ้าพลังน้ำต้าซูเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน โดยในปี 2564 รถโดยสารที่บรรทุกคนงานของโครงการตกเป็นเป้าหมายการโจมตี ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย โดยเป็นชาวจีน 9 ราย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีกลุ่มใดที่ออกมาแสดงตัวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในแคว้นแชงลา
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การโจมตีในครั้งนี้นับเป็นการโจมตีต่อเนื่องครั้งล่าสุดที่ดูเหมือนจะมุ่งเป้ามายังผลประโยชน์ของจีนในปากีสถาน ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์ดอว์น (Dawn) รายงานว่า การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่กลุ่มติดอาวุธในท้องถิ่นได้เข้าโจมตีฐานทัพเรือทางตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้นบาโลชิสถาน ต่อจากการโจมตีที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ท่าเรือทางยุทธศาสตร์ที่ดำเนินการโดยบริษัทจีนในพื้นที่เดียวกัน