คนขับรถโดยสารประจำทางที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานในกรุงโซลหยุดงานประท้วงในวันนี้ (28 มี.ค.) เพื่อเรียกร้องให้มีการปรับขึ้นค่าแรง ส่งผลให้การให้บริการรถโดยสารเกือบ 98% ทั่วเมืองหลวงของเกาหลีใต้ต้องหยุดชะงัก และผู้โดยสารประสบกับความล่าช้าในการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนเช้านี้
สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า ในการเจรจาเรื่องค่าจ้างที่ดำเนินการตั้งแต่วันพุธ (27 มี.ค.) จนถึงเช้าวันนี้ สหภาพแรงงานคนขับรถบัสในกรุงโซลและนายจ้างนั้นไม่สามารถบรรลุข้อตกลงของสหภาพแรงงานที่เรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าแรงรายชั่วโมง 12.7%
สหภาพแรงงานคนขับรถบัสซึ่งมีสมาชิกประมาณ 18,000 คนจาก 65 บริษัท ตอบโต้ด้วยการหยุดงานประท้วง ซึ่งส่งผลกระทบต่อรถโดยสารภายในเมือง 7,210 คัน ซึ่งคิดเป็น 97.6% ของบริการรถโดยสารในกรุงโซล
รายงานระบุว่า การหยุดงานประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารจำนวนมากในชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเช้า ตลอดจนก่อให้เกิดความล่าช้าสำหรับผู้สัญจรและผู้โดยสารที่ไม่ได้รับข้อมูล
ด้านรัฐบาลกรุงโซลได้เพิ่มการให้บริการรถไฟใต้ดินในช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งช่วงเช้าและเย็น เพื่อลดความไม่สะดวกของผู้โดยสาร และขยายเวลาเปิดให้บริการรถไฟใต้ดินจากเวลา 01.00 น. เป็น 02.00 น.
นอกจากนี้ รัฐบาลทั้ง 25 เขตของกรุงโซลได้จัดให้มีบริการรถรับส่งฉุกเฉินฟรีเพื่อเคลื่อนย้ายผู้โดยสารไปยังสถานีรถไฟใต้ดินอย่างรวดเร็วด้วย
ทั้งนี้ สหภาพแรงงานคนขับรถบัสเรียกร้องให้มีการปรับขึ้นค่าจ้างรายชั่วโมง 12.7% โดยให้เหตุผลว่าบรรดาคนขับรถบัสของสหภาพได้พากันย้ายไปทำงานในพื้นที่ใกล้เคียงอื่น ๆ แต่ฝ่ายนายจ้างกลับมองว่าตัวเลขดังกล่าวนั้นมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาอัตราเงินเฟ้อในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา