เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (2 เม.ย.) ว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของข้าวยีสต์แดง มีความเชื่อมโยงกับผู้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล 157 ราย
ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงจำนวนผู้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจากจำนวน 114 รายที่โคบายาชิ ฟาร์มาซูติคอล บริษัทยาสัญชาติญี่ปุ่น รายงานเมื่อวันศุกร์ (29 มี.ค.) ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่มีข้าวยีสต์แดง หรือ "เบนิ-โคจิ" (beni-koji)
ด้านโฆษกของบริษัทโคบายาชิยืนยันตัวเลขล่าสุด แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติมใด ๆ
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โคบายาชิระบุว่ากำลังสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิต 5 รายที่อาจเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มุ่งลดคอเลสเตอรอล โดยทางรัฐบาลและบริษัทกำลังตรวจสอบว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับไต
เมื่อวันที่ 22 มี.ค. โคบายาชิ ฟาร์มาซูติคอล ประกาศว่าจะเรียกคืนยาเม็ดที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ 3 ชนิดที่มีส่วนประกอบเป็น "เบนิ-โคจิ" หลังได้รับรายงานจากลูกค้าว่าประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคไต
รายงานระบุว่า ข้าวยีสต์แดงคือข้าวที่หมักด้วยเชื้อรา มีการนำมาใช้ในอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาพื้นบ้านมานานหลายศตวรรษในภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยโคบายาชิตรวจพบกรดพิวเบอรูลิก (puberulic acid) ซึ่งเป็นสารประกอบธรรมชาติที่ทำจากราสีน้ำเงิน ในส่วนผสมของอาหารเสริมดังกล่าว และอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้น
กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่นระบุว่า สารดังกล่าวเป็นสารต้านแบคทีเรียและต้านมาลาเรียที่มีฤทธิ์รุนแรงซึ่งอาจเป็นพิษได้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของรัฐได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบโรงงานของบริษัทในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
บริษัทระบุว่า ได้ขายข้าวยีสต์แดงให้กับบริษัทอีกประมาณ 50 แห่งในญี่ปุ่น และอีก 2 แห่งในไต้หวัน โดยหลายบริษัทได้ออกมาตรการเรียกคืนผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนผสมดังกล่าว เช่น สาเกสีกุหลาบ และน้ำสลัด
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขไต้หวันระบุว่า บริษัทไต้หวันได้พยายามเรียกคืนผลิตภัณฑ์ 154 รายการที่มีส่วนผสมของข้าวยีสต์แดงแล้ว
ทั้งนี้ มีรายงานว่าหญิงชาวไต้หวันวัย 70 ปีรายหนึ่งมีอาการไตวาย หลังจากรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของโคบายาชิมานานหลายปี