สำนักข่าวบีบีซีรายงานในวันนี้ (7 พ.ค.) ว่า ชาวเวียดนามกว่า 500 รายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการต้องสงสัยอาหารเป็นพิษ หลังรับประทานแซนด์วิชบั๋นหมี่ (Bánh mì) จากร้านแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเวียดนาม
รายงานระบุว่า ในจำนวนนี้ 12 ราย รวมถึงเด็กชาย 2 ราย ซึ่งมีอายุระหว่าง 6-7 ปี อยู่ในอาการสาหัส โดยคาดว่าแซนด์วิชอาจเน่าเสีย เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด
ร้านเบเกอรี่ดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดด่งนาย ถูกสั่งปิดเป็นการชั่วคราวแล้ว และการเข้าตรวจสอบร้านดังกล่าวเบื้องต้นพบว่า ไม่เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของอาหาร
ทั้งนี้ ?บั๋นหมี่? เป็นแซนด์วิชเวียดนามแบบดั้งเดิม ที่ประกอบด้วยบาแกตต์สไตล์ฝรั่งเศส ยัดไส้ด้วยเนื้อตัดเย็น ปาเต้ และผัก ซึ่งหน่วยงานท้องถิ่นระบุว่า ร้านเบเกอรี่แห่งนี้จำหน่ายแซนด์วิชได้ประมาณ 1,100 ชิ้นต่อวัน
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 พ.ค.) เจ้าหน้าที่เมืองลองคานห์ ยืนยันพบผู้ป่วยอย่างน้อย 560 ราย หลังจากรับประทานแซนด์วิชจากร้านเบเกอรี่ดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 เม.ย. และปัจจุบันมีผู้ป่วยกว่า 200 รายออกจากโรงพยาบาลแล้ว
รายงานของโรงพยาบาลท้องถิ่นระบุว่า จำนวนผู้ป่วยที่ต้องสงสัยว่ามีอาการอาหารเป็นพิษเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน โดยมีอาการตั้งแต่ท้องร่วง อาเจียน มีไข้ และปวดท้องอย่างรุนแรง
หนังสือพิมพ์เฮลธ์ แอนด์ ไลฟ์ (Health and Life) ของเวียดนาม ได้สัมภาษณ์ลูกค้าชาวเวียดนามรายหนึ่ง ซึ่งลูกทั้ง 3 คนของเธอกำลังเข้ารับการรักษาในห้องไอซียูที่โรงพยาบาลเด็ก
นางเจิ่น ง็อก เฟือง กล่าวว่า เธอได้ซื้อบั๋นหมี่ 3 ชิ้น พร้อมสั่งพิเศษเนื้อให้ลูก ๆ และหลังจากนั้นภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ทุกคนเริ่มแสดงอาการอาหารเป็นพิษ
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของภูมิภาคระบุเมื่อวันอาทิตย์ (5 พ.ค.) ว่า จากการตรวจเลือดของผู้ที่ป่วยที่มีอาการรุนแรงบางรายพบว่า ผู้ป่วยมีเชื้ออี. โคไล ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มักพบในของสด เช่น เนื้อวัว ชีส และผลไม้