รัฐบาลสหรัฐขึ้นบัญชีดำหน่วยงานจีน 37 แห่ง โดยอ้างถึงข้อกังวลด้านความมั่นคงของชาติ โดย 11 แห่งในจำนวนนี้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บอลลูนสอดแนมที่ลอยเหนือน่านฟ้าสหรัฐเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
หน่วยงานของจีนที่ถูกขึ้นบัญชีดำซึ่งรวมถึงบริษัทและสถาบันการวิจัย ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำธุรกิจกับบริษัทในสหรัฐ และต้องได้รับการอนุมัติจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐก่อนจึงจะสามารถจัดซื้อผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีจากบริษัทของสหรัฐได้
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐระบุว่า หน่วยงาน 22 แห่งจากทั้งหมด 37 แห่งที่ถูกขึ้นบัญชีดำนั้น มีความเกี่ยวข้องกับความพยายามของจีนในการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมและการซื้อสินค้าที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านควอนตัมของจีน นอกจากนี้ หน่วยงานบางแห่งยังมีความข้องเกี่ยวกับความก้าวหน้าด้านโครงการนิวเคลียร์ของจีน หรือมีความข้องเกี่ยวในการส่งออกสิ่งของควบคุมไปยังรัสเซีย
"การดำเนินการในวันนี้ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญในการจัดการกับความท้าทายที่เกิดจากการกระทำของจีน ซึ่งรวมถึงการที่จีนพยายามปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย" นายอลัน เอสเตเวซ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฝ่ายอุตสาหกรรมและความมั่นคงระบุในแถลงการณ์
นายเอสเตเวซเสริมว่า สหรัฐจำเป็นต้องระมัดระวังในการป้องกันไม่ให้หน่วยงานดังกล่าวของจีนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติได้
นายเอสเตเวซระบุว่า สหรัฐจะต้องระมัดระวังในการป้องกันไม่ให้หน่วยงานดังกล่าวจากการเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติได้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บอลลูนสอดแนมขนาดยักษ์ที่ต้องสงสัยว่าถูกใช้สอดแนมทั่วสหรัฐ ถูกพบเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนก.พ. ปีที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นชนวนครั้งใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีน