คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐมุ่งมั่นที่จะออกคำสั่งให้โรงพยาบาลปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นต่ำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ หลังจากการโจมตีทางไซเบอร์เพียงครั้งเดียวเป็นเหตุให้ข้อมูลของชาวอเมริกัน 100 ล้านคนรั่วไหล
"เราตั้งเป้าที่จะสร้างมาตรฐานขั้นต่ำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับโรงพยาบาลในระยะเวลาอันใกล้นี้" แอนน์ นอยเบอร์เกอร์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติทางไซเบอร์และเทคโนโลยีเกิดใหม่กล่าวในการให้สัมภาษณ์ที่งานประชุมสุดยอด Bloomberg Tech Summit ณ เมืองซานฟรานซิสโก เมื่อวันพฤหัสบดี (9 พ.ค.)
อย่างไรก็ดี นางนอยเบอร์เกอร์ไม่ได้ระบุกำหนดเวลาที่แน่ชัดในการผลักดันกฎดังกล่าว
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของสหรัฐผู้ไม่ประสงค์ออกนามเปิดเผยว่า ข้อเสนอนี้อาจขยายขอบเขตออกไปนอกเหนือจากโรงพยาบาล อีกทั้งคณะบริหารยังตั้งใจที่จะเผยแพร่ประกาศเกี่ยวกับกฎที่เสนอในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อสร้างมาตรฐานขั้นต่ำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับองค์กรที่ได้รับทุนจากเมดิแคร์ (Medicare) และเมดิเคด (Medicaid) และหลังจากนั้นก็จะเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังเกิดเหตุโจมตีทางไซเบอร์เมื่อเดือนก.พ.ต่อเชนจ์ เฮลท์แคร์ (Change Healthcare) บริษัทในเครือของยูไนเต็ดเฮลท์ ซึ่งส่งผลให้การจ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์แก่ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพหยุดชะงัก ตลอดจนเกิดความล่าช้าในการดูแลผู้ป่วย และพบว่า แฮกเกอร์ได้ขโมยข้อมูลทางการแพทย์ของผู้ป่วยชาวอเมริกันไปได้มากถึง 1 ใน 3
ทั้งนี้ ภาคการดูแลสุขภาพตกเป็นเป้าหมายของเหล่าอาชญากรทางไซเบอร์ ซึ่งได้เข้ารหัสเครือข่ายคอมพิวเตอร์และขโมยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเพื่อแลกกับการจ่ายค่าไถ่ โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (8 พ.ค.) อัสเซนชัน (Ascension) หนึ่งในเครือโรงพยาบาลคาทอลิกรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐเปิดเผยว่า กำลังตรวจสอบเหตุการณ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระบบเครือข่ายบางระบบ