ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เปิดเผยรายงานความยั่งยืนประจำปีซึ่งเผยแพร่เมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) ว่า การปล่อยคาร์บอนทั้งหมดของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบ 30% นับตั้งแต่ปี 2563 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการก่อสร้างบรรดาศูนย์ข้อมูล
รายงานระบุว่า การปล่อยคาร์บอนประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 ซึ่งเกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทและการใช้ไฟฟ้าหรือความร้อน ลดลง 6.3% ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2563 อย่างไรก็ดี การปล่อยคาร์บอนทางอ้อมซึ่งเกิดจากกิจกรรมอื่น ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 30.9% เพราะมีการใช้วัสดุก่อสร้างและส่วนประกอบฮาร์ดแวร์เพิ่มขึ้น เช่น เซมิคอนดักเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ และตู้แร็ก ที่ใช้ในการสร้างศูนย์ข้อมูล
ไมโครซอฟท์ระบุว่า "ความท้าทายของเราส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราเป็นซัพพลายเออร์ระบบคลาวด์ชั้นนำที่กำลังขยายศูนย์ข้อมูล" และได้ระบุว่า การสร้างศูนย์ข้อมูลจำเป็นต้องใช้คอนกรีต เหล็ก เชื้อเพลิง และชิปที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การขยายศูนย์ข้อมูลได้สร้างความท้าทายสำหรับบรรดาบริษัทเทคโนโลยีที่พยายามจำกัดปริมาณการปล่อยคาร์บอน ซึ่งทางไมโครซอฟท์เองมีเป้าหมายที่จะมีการปล่อยคาร์บอนเป็นลบ (Carbon Negative) ภายในปี 2573
ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ได้ออกข้อกำหนดใหม่สำหรับการปฏิบัติการ โดยกำหนดให้ซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่ได้รับการคัดเลือกหลายรายจะต้องใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าที่ปราศจากคาร์บอนภายในปี 2573 เพื่อช่วยลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนทางอ้อม