พายุไซโคลนริมาล (Remal) เคลื่อนขึ้นฝั่งบังกลาเทศและอินเดียเมื่อช่วงดึกวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดกระแสลมแรงและฝนตกหนักตามพื้นที่ชายฝั่งของทั้งสองประเทศ ขณะเดียวกัน ประชาชนหลายล้านคนต้องประสบปัญหาไม่มีไฟฟ้าใช้หลังจากเสาไฟฟ้าล้ม ส่วนต้นไม้บางส่วนถูกกระแสลมแรงพัดจนหักโค่น
กรมอุตุนิยมวิทยาอินเดีย (IMD) ระบุว่า พายุไซโคลนริมาลได้เคลื่อนผ่านพื้นที่ชายฝั่งของท่าเรือมองลาในบังกลาเทศและเกาะซาการ์ในรัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดีย โดยมีความเร็วลมสูงสุด 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ประมาณ 84 ไมลค์ต่อชั่วโมง)
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระดับภูมิภาคในเมืองโกลกาตาในรัฐเบงกอลตะวันตกระบุว่า พายุไซโคลนริมาลเคลื่อนขึ้นฝั่งตั้งแต่เวลา 21.00 น.ของวันอาทิตย์ตามเวลาอินเดีย ซึ่งช้ากว่าไทย 1 ชั่วโมงครึ่ง และทำให้เกิดฝนตกหนักนานราว 5 ชั่วโมง
ตำรวจระบุว่า พบผู้เสียชีวิต 1 รายในเมืองโกลกาตา หลังจากถูกชิ้นส่วนคอนกรีตขนาดใหญ่ร่วงใส่ในช่วงที่พายุไซโคลนริมาลมีความรุนแรงที่สุด ขณะเดียวกันกระท่อมมุงหลังคาและบ้านดินในพื้นที่ชายฝั่งของทั้งสองประเทศต่างได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่ เจ้าหน้าที่กำลังรอตรวจสอบความเสียหายทั้งหมด
รายงานระบุว่า บังกลาเทศได้อพยพประชาชนราว 800,000 รายจากท่าเรือมองลาและจิตตะกอง รวมถึงเขตชายฝั่ง 9 แห่งไปยังค่ายพักพิงตั้งแต่ช่วงบ่ายวันอาทิตย์ ขณะที่ อินเดียอพยพประชาชนไปค่ายพักพิงจำนวน 110,000 ราย
นอกจากนี้ เที่ยวบินระหว่างประเทศและเที่ยวบินในประเทศกว่า 50 เที่ยวได้ถูกยกเลิกในเมืองโกลกาตา เนื่องจากมีการระงับการดำเนินงานตั้งแต่ช่วงบ่ายวันอาทิตย์ ส่วนบังกลาเทศได้ระงับการดำเนินงานที่ท่าเรือมองลาและจิตตะกอง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พื้นที่ชายฝั่งที่มีความราบลุ่มของบังกลาเทศและอินเดียเผชิญพายุรุนแรงบ่อยครั้งตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ทำให้อุณหภูมิพื้นผิวทะเลสูงขึ้น โดยพายุไซโคลนริมาลเป็นพายุไซโคลนลูกแรกของปีนี้ในพื้นที่ดังกล่าว