ทั้งนี้ นายโก๊ะระบุในบันทึกว่า ทุกคนในสิงคโปร์ แอร์ไลน์ได้เผชิญกับความท้าทายอย่างมากในช่วง 5 วันที่ผ่านมา พร้อมชื่นชมความคล่องตัว ความทุ่มเท และจิตวิญญาณของทีมพนักงานสายการบินในช่วงเวลาดังกล่าว รวมถึงแสดงความขอบคุณต่อพนักงานทุกคนที่เกี่ยวข้องจากใจจริงในนามของคณะกรรมการและทีมผู้บริหารของสิงคโปร์ แอร์ไลน์
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เที่ยวบินที่ SQ321 มีผู้โดยสาร 211 คน และลูกเรือ 18 คนบนเครื่องขณะที่เปลี่ยนเส้นทางมายังกรุงเทพฯ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากมีเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์
นายเจฟฟ์ คิทเชน วัย 73 ปีจากเทศมณฑลกลอสเตอร์เชียร์ของอังกฤษ เสียชีวิตระหว่างเครื่องบินเผชิญสภาพอากาศแปรปรวน โดยคาดว่าจะเสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ
ส่วนผู้โดยสารและลูกเรือที่ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้บินไปยังสิงคโปร์ในช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้นถัดจากวันเกิดเหตุ
นอกจากนี้ บันทึกดังกล่าวระบุเสริมว่า สายการบินยังคงช่วยเหลือผู้โดยสารและพนักงานที่ได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง โดยนายโก๊ะได้ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลเป็นการส่วนตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ด้านนายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และกล่าวว่าสิงคโปร์ได้ทำงานกับทางการไทยอย่างใกล้ชิดในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ดังกล่าว