ไรอัน ซาลาเม อดีตผู้บริหารของเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีที่ประสบภาวะล้มละลาย ได้ถูกตัดสินโทษจำคุก 90 เดือนหรือ 7 ปีครึ่ง และต้องเข้าสู่มาตรการควบคุมความประพฤติภายหลังจากได้รับการปล่อยตัวอีก 3 ปี นอกจากนี้ นายซาลาเมยังได้รับคำสั่งให้จ่ายค่าปรับมากกว่า 6 ล้านดอลลาร์ และค่าชดเชยอีกกว่า 5 ล้านดอลลาร์
โทษจำคุกดังกล่าวถือว่าหนักกว่าที่อัยการเสนอให้จำคุก 5-7 ปี และก็หนักกว่าที่ทนายความของนายซาลาเมเสนอต่อศาลให้เขารับโทษเพียง 18 เดือน
เมื่อเดือนก.ย. 2566 นายซาลาเมรับสารภาพในข้อหาสมคบคิดเกี่ยวกับการบริจาคเงินทางการเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฉ้อโกงคณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐบาลกลาง และสมคบคิดดำเนินธุรกิจการโอนเงินโดยไม่มีใบอนุญาต
ขณะเดียวกัน เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา นายลูอิส แคปแลน ผู้พิพากษาศาลเขตแมนฮัตตันได้ตัดสินจำคุกนายแซม แบงก์แมน-ฟรีด ผู้ก่อตั้งบริษัทเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) เป็นระยะเวลา 25 ปี
ในปี 2564 นายซาลาเมได้ย้ายจากตำแหน่งระดับสูงในอลาเมดา รีเสิร์ช (Alameda Research) ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ในเครือของ FTX มาดำรงตำแหน่งซีอีโอร่วมของเอฟทีเอ็กซ์ ดิจิทัล มาร์เก็ตส์ (FTX Digital Markets) ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือเอฟทีเอ็กซ์ที่ดำเนินการในบาฮามาส โดยนายซาลเมได้ใช้เงินหลายล้านดอลลาร์เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์และบริจาคเงินทางการเมืองในระหว่างดำรงตำแหน่ง
ทนายความชาวบาฮามาสอ้างว่า นายแซม แบงก์แมน-ฟรีด และนายซาลาเมใช้เงิน 256.3 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อและบำรุงรักษาอสังหาริมทรัพย์ 35 แห่งในย่านนิวพรอวิเดนซ์ ซึ่งหน่วยงานกำกับดูแลของบาฮามาสกำลังพยายามเรียกคืนทรัพย์สินดังกล่าวในกระบวนการป้องกันการล้มละลายของ FTX ในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากคณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐบาลกลางสหรัฐระบุว่า นายซาลาเมบริจาคเงินมากกว่า 24 ล้านดอลลาร์ให้กับผู้สมัครของพรรครีพับลิกันและในช่วงการเลือกตั้งปี 2565
ไม่กี่วันก่อนที่ FTX จะถูกฟ้องล้มละลายในปี 2565 นายซาลาเมได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่บาฮามาสว่า นายแบงก์แมน-ฟรีด อาจกระทำการฉ้อโกง โดยการส่งเงินของลูกค้าจาก FTX ไปยังอลาเมดา รีเสิร์ช ซึ่งเป็นบริษัทอีกแห่งของเขา อีกทั้งนายซาลาเมยังเปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่นายแบงก์แมน-ฟรีด จัดการทรัพย์สินของลูกค้าในทางที่ผิด
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่สาธารณชนได้รับรู้เกี่ยวกับคนวงในของบริษัทที่มีปัญหากับนายแบงก์แมน-ฟรีดซึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานขโมยเงินสดของลูกค้ามูลค่ากว่า 8 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ลูกค้าคิดว่าเงินของพวกเขาถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยที่ FTX