เหตุการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) ได้ส่งผลให้เจ้าหน้าที่สั่งอพยพประชาชนกว่า 1,000 คน และเปลวเพลิงได้ทำลายพื้นที่เป็นวงกว้างถึง 12,000 เอเคอร์
สำนักป่าไม้และการป้องกันอัคคีภัยรัฐแคลิฟอร์เนีย (Cal Fire) ระบุว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงราว 400 นายพร้อมรถดับเพลิงจำนวน 70 คัน และรถปราบดิน (Bulldozer) อีก 2 คัน ได้ถูกส่งเข้าไปยังพื้นที่ประสบภัยไฟป่า แต่ก็ควบคุมเพลิงได้เพียง 2% เท่านั้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ไฟไป่าได้ลุกไหม้ในพื้นที่ตอนใต้ของเขตกอร์แมน รัฐแคลิฟอร์เนีย ห่างจากลอสแอนเจลิสไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 96.5 กิโลเมตร โดยขณะนี้ไฟป่ากำลังลุกลามไปทางตะวันออกเฉียงใต้สู่ทะเลสาบพีระมิด
Cal Fire ระบุว่า ไฟป่าเริ่มเกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันเสาร์ (15 มิ.ย.) และกำลังลุกลามไปทางตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งหน้าสู่ทะเลสาบพีระมิด ส่งผลให้ประชาชน 1,200 คนต้องอพยพออกจากเขตฮังกรี วัลเลย์ (Hungry Valley) ในเมืองลอสแอนเจลิส ซึ่งมีเส้นทางสำหรับจักรยานยนต์และรถออฟโรด โดย ณ ขณะนี้มีโครงสร้างถูกทำลาย 2 แห่ง
นอกจากนี้ Cal Fire ระบุว่าอุณหภูมิที่สูงและลมพัดแรงเป็นสิ่งที่ทำให้ความพยายามในการควบคุมไฟป่าเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยขณะนี้มีเครื่องบินโปรยน้ำเพื่อสกัดไฟ และนักดับเพลิงกำลังสร้างแนวดับเพลิงโดยรอบเพื่อพยายามควบคุมเพลิงให้ได้มากที่สุด