รัฐบาลเกาหลีใต้มีคำสั่งให้ดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยของไซต์งานอุตสาหกรรมความเสี่ยงสูงอย่างเร่งด่วนในวันนี้ (25 มิ.ย.) หลังเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานแบตเตอรี่ลิเธียม ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองฮวาซองทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโซล ส่งผลให้คนงานเสียชีวิต 22 รายและสูญหาย 1 ราย
เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ ของเกาหลีใต้ซึ่งรวมถึง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยดับเพลิง ได้เข้าไปยังโรงงานดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือในการสืบสวนเพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า เปลวไฟที่ลุกไหม้ภายในคลังเก็บของที่มีแบตเตอรี่ลิเธียม 35,000 ชิ้นได้ทำให้เกิดควันพิษ และคนงานอาจหมดสติและเสียชีวิตภายในไม่กี่วินาทีต่อมา
เหตุการณ์ไฟไหม้ดังกล่าวถือเป็นอุบัติเหตุในอุตสาหกรรมครั้งล่าสุดของเกาหลีใต้ โดยที่ผ่านมานั้นมีคนงานในอุตสาหกรรมการผลิตเสียชีวิตในการทำงานหลายสิบรายในแต่ละปี แม้จะมีการเรียกครั้งแล้วครั้งเล่าให้ยกระดับความปลอดภัยของที่ทำงานก็ตาม
นายฮัน ด็อก-ซู นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า "ผมได้สั่งการให้กระทรวงแรงงานและอุตสาหกรรม และหน่วยงานดับเพลิงดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเร่งด่วน และใช้มาตรการต่าง ๆ ในสถานที่ที่น่ากังวลว่าจะเกิดอุบัติเหตุ"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คนงาน 17 รายจาก 22 รายที่เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้เป็นชาวจีน และมีชาวสปป.ลาว 1 รายที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ด้วย โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ได้รับการว่าจ้างชั่วคราวให้ทำงานที่โรงงานบรรจุแบตเตอรี่ลิเธียมที่ดำเนินการโดยบริษัทอาริเซลล์ (Aricell)
นายคิม จินยอง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเมืองฮวาซองเปิดเผยว่า นักดับเพลิงพร้อมสุนัขค้นหา กำลังเร่งค้นหาผู้ประสบภัยที่ยังคงสูญหายอีก 1 ราย โดยพวกเขาพบชิ้นส่วนมนุษย์และของใช้ส่วนตัวบางอย่าง ซึ่งจะส่งไปตรวจดีเอ็นเอเพื่อระบุตัวตนต่อไป