สำนักข่าวของรัฐบาลมอริเตเนียรายงานเมื่อวานนี้ (4 ก.ค.) ว่า มีผู้อพยพอย่างน้อย 89 คนเสียชีวิตจากเหตุเรือล่มนอกชายฝั่งมอริเตเนียเมื่อวันจันทร์ (1 ก.ค.)
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ยามฝั่งของมอริเตเนียสามารถเก็บร่างของผู้อพยพที่อยู่บนเรือประมงลำใหญ่ตอนที่เรือล่มได้ โดยเจ้าหน้าที่สามารถช่วยชีวิตได้ 9 คน รวมถึงเด็กหญิงวัย 5 ขวบ 1 คน
เรือล่มนอกชายฝั่งในมหาสมุทรแอตแลนติก ห่างจากเมืองนดิอาโก (Ndiago) ทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 4 กิโลเมตร
ผู้รอดชีวิตให้สัมภาษณ์ว่า เรือลำดังกล่าวได้เดินทางออกจากชายแดนแกมเบีย-เซเนกัลเมื่อ 6 วันที่แล้ว โดยมุ่งหน้าสู่ยุโรปและมีผู้อพยพอย่างน้อย 170 คนบนเรือ
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า มีผู้อพยพชาวแอฟริกันตะวันตกหลายพันคนข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อไปค้นหางานและโอกาสในยุโรปทุกปี
รายงานขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ในปี 2567 ระบุว่า การข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกถือเป็นอันตรายอย่างยิ่งเนื่องจากต้องใช้เวลานานในการเดินทางไปยุโรป โดยผู้อพยพมักติดอยู่กลางทะเลเป็นเวลานานบนเรือที่ไม่เพียงพอในจุดต่าง ๆ ของมหาสมุทรแอตแลนติกซึ่งขาดปฏิบัติการช่วยเหลือ