จีนประกาศเปิดตัวแคมเปญใหม่เพื่อรณรงค์ต่อต้านโรคอ้วน หลังพบว่าประชากรผู้ใหญ่ครึ่งหนึ่งมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ขณะที่ 19% ของผู้เยาว์ที่มีอายุระหว่าง 6-17 ปี และ 10% ของเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) ได้เปิดตัวแคมเปญดังกล่าวในสัปดาห์นี้ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องการควบคุมน้ำหนัก โดยให้ความสำคัญกับความมุ่งมั่นตั้งใจตลอดชีวิต การเฝ้าติดตามผลอย่างจริงจัง การควบคุมอาหารอย่างสมดุล การออกกำลังกาย การนอนหลับให้เพียงพอ การกำหนดเป้าหมายที่สมเหตุสมผล และการร่วมแรงร่วมใจกันในครอบครัว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แคมเปญดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการระยะเวลา 3 ปีของรัฐบาลจีน เพื่อสนับสนุนให้ชาวจีนหันมาปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
"โรคอ้วนและน้ำหนักเกินเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ" กัว เหยียนหง ผู้อำนวยการสำนักงานตอบสนองสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสุขภาพของ NHC กล่าว "เราต้องเข้าไปแทรกแซงและแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น"
นักระบาดวิทยาระบุว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากรูปแบบการบริโภคอาหารของชาวจีนที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยมีการบริโภคอาหารที่มาจากสัตว์ ธัญพืชขัดสี รวมถึงอาหารแปรรูป มีน้ำตาลสูง และมีไขมันสูงเพิ่มมากขึ้น ขณะที่การออกกำลังกายลดลง
บทความหนึ่งซึ่งเผยแพร่ผ่านวารสารการแพทย์ เดอะ แลนเซต (The Lancet) เมื่อปี 2564 ระบุว่า "จากการศึกษาพบหลักฐานชัดเจนที่เชื่อมโยงภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการเกิดโรคไม่ติดต่อที่สำคัญและการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในประชากรจีน"
รัฐบาลจีนไม่ได้นิ่งดูดายต่อสถานการณ์ดังกล่าว โดยในปี 2559 ได้มีการประกาศยุทธศาสตร์ชาติ Healthy China 2030 เพื่อปรับปรุงการสาธารณสุขและการดูแลสุขภาพ ซึ่งระบุชัดเจนว่าการควบคุมภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนเป็นเป้าหมายหลัก พร้อมกำหนดมาตรการแก้ปัญหาอย่างละเอียด
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้เผยแพร่แนวปฏิบัติในการป้องกันและควบคุมโรคอ้วนทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก รวมถึงเปิดตัวโครงการ "วงจรฟิตเนส 15 นาที" ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างสถานที่ออกกำลังกายที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ภายในระยะเดินหรือปั่นจักรยาน 15 นาทีจากพื้นที่อยู่อาศัย ซึ่งโครงการดังกล่าวกำลังขยายออกไปอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ